วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

ผมสวยด้วยธรรมชาติ

           
           สมุนไพรที่เรามีอยู่ใกล้ๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นพืช ผัก หรือผลไม้ ที่หาได้จากก้นครัวนั้น ช่วยทำให้ "ผมสวย" ได้ไม่แพ้ผลิตภัณฑ์ที่วางขายอยู่ตามท้องตลาด 

           เพียงแต่จะต้องมีขั้นตอนในการนำมาใช้ ใช่ว่าจะสะดวกเช่นการบีบออกจากขวด แต่ข้อดีคือสารสำคัญที่มีผลบำรุงผมนั้นยังคงมีอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนั้น "ผมสวยด้วยสมุนไพร" จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนรักผม สูตรต่อไปนี้เป็นวิธีนำสมุนไพรมาใช้เพื่อให้ผมสวยด้วยวิธีต่างๆ ได้ไม่ยาก เสน่ห์ผมหอมกรุ่น...ชวนหลงใหล
 
           ใช้ดอกไม้มีกลิ่นหอมตามชอบใจ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้สดอย่าง ดอกมะลิ (เลือกที่กำลังจะบาน) กุหลาบ (เลือกที่บานเต็มที่) ดอกแก้ว ดอกพุด เป็นต้น นำมาแช่ทิ้งไว้ในน้ำมันมะกอกนาน 3 - 6 ชั่วโมง ถ้าจะให้หอมมาก อาจแช่ทิ้งไว้นานถึง 1 คืนก็ได้ นอกจากนี้ อาจจะใช้ผิวมะกรูด หรือผิวมะนาวบีบลงไปผสมด้วยเล็กน้อย จากนั้น ให้นำส่วนผสมดังกล่าวมาหมักผมทิ้งไว้นานประมาณ 15 - 20 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด อาจใช้สูตรที่ทำจากดอกไม้แห้งก็ได้ โดยจะต้องนำดอกไม้แห้งไปเคี่ยวกับน้ำมันมะกอกจนได้ส่วนผสมเช่นเดียวกัน

          น้ำมันมะกอก ประกอบไปด้วยสารที่ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ให้ผมนุ่มลื่นเงางาม วิตามินเอและอีจะช่วยป้องกันการทำลายเส้นผมจากแสงแดดและอนุมูลอิสระ

          ผมนุ่มสลวยมีน้ำหนัก
          ใช้กล้วยหอมที่สุกค่อนข้างจะงอม นำเอามายีหรือปั่นผสมกับน้ำมันมะกอก นำมาใช้หมักผมที่แห้งหมาดๆ แล้วทิ้งไว้เป็นเวลานาน 15 - 20 นาที เมื่อล้างออกแล้วให้ใช้มะกรูดเผา คั้นเอาน้ำมาชโลมผม นอกจากจะช่วยให้ผมมีน้ำหนัก และสปริงตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ยังช่วยให้ผมมีกลิ่นหอมและไม่แห้งแตกปลายอีกด้วย

          กล้วยหอม มีองค์ประกอบของสารเพคตินที่จะช่วยเคลือบเส้นผม ให้ผมนุ่มมันเงา นุ่มลื่น โดยแร่ธาตุต่างๆ อาทิ ฟอสฟอรัส แคลเซียม ฯลฯ จะช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ป้องกันเส้นผมถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ

          บำรุงผมไม่ให้ร่วง
          ป้องการผมหลุดร่วง โดยบำรุงผมให้แข็งแรงถึงรากผมด้วยการใช้ขิงแก่นำมาบดแล้วห่อด้วยผ้าขาวบาง จากนั้นนำเอาไปอบไมโครเวฟก็ได้ นำห่อขิงที่อบร้อนนั้นมาคลึงที่หนังศีรษะให้ทั่วเป็นเวลานานประมาณ 15 - 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด การประคบดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นรากผมให้ผมที่งอกขึ้นมามีรากผมที่แข็งแรง และไม่หลุดร่วง

          ลดความมันของผม
          ด้วยการใช้มะนาวหรือมะกรูดผสมกับน้ำเปล่า นำส่วนผสมดังกล่าวมาชโลมผมแล้วไม่ต้องล้างออก อาจใช้สูตรน้ำส้มสายชูแทนได้แต่ต้องล้างออก

          มะกรูด  มีองค์ประกอบของสารไนอาซีน เหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และกรดอินทรีย์อื่นๆ ที่ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้เส้นผมนุ่ม มีน้ำหนัก เงางาม ดกดำ และไม่มีรังแค ช่วยปรับค่า pH ของเส้นผมที่มีค่าความเป็นด่างสูง ซึ่งเกิดขึ้นจากการใช้แชมพู อีกทั้งยังช่วยบำรุงผมไม่ให้หงอกก่อนวัย

          ปกป้องผมจากรังแค

          หากอยากมีเรือนผมสุขภาพดีที่ ปราศจากรังแค และอาการคันศีรษะ หลังจากสระผมปกติแล้ว ให้ใช้น้ำซาวข้าวเหนียวหรือข้าวกล้องปริมาณ 1 ถ้วย นำมะกรูดเผากับมะนาวประมาณ 3 - 4 ผล มาแช่ในน้ำซาวข้าวดังกล่าว แล้วบีบเอาน้ำออก นำมาหมักผมทิ้งไว้ประมาณ 15 - 20 นาทีแล้วไม่ต้องล้างออก
         
          ฟื้นฟูผมเสียสู่สภาพปกติ
          บำรุงผมเสียให้กลับคืน สู่ผมที่มีสุขภาพดีได้ด้วยการนำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก นำไปปั่นให้ละเอียด แล้วนำมาหมักผมไว้เป็นเวลานาน 15 - 20 นาที หรืออาจจะใช้ตะไคร้ ให้นำมาปั่นแล้วเอาน้ำมาหมักผมที่แตกปลายให้กลับสู่สภาพปกติได้ดี

          ทำสีผมสวย
          เช่นเดียวกับการเปลี่ยนสีผมด้วย ด้วยการใช้เฮนน่าผสมกับไข่แดง น้ำมันมะกอก กาแฟหรือชาโบราณก็ได้ แต่ไม่ควรใช้ชาจีน ผสมทั้งหมดให้เข้ากันแล้วทิ้งเอาไว้นาน 12 ชั่วโมง ส่วนผสมจะมีลักษณะคล้ายโคลน ให้นำส่วนผสมดังกล่าวมาหมักผมไว้นานประมาณ 1 ชั่วโมง จะช่วยปรับสีผมให้ได้ออกมาเป็นสีโค้ก โดยถ้ายิ่งหมักทิ้งไว้นานกว่านั้นหรือหมักบ่อยเข้า ผมก็จะมีสีออกแดงยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ถ้าบีบมะนาวลงไปในส่วนผสมดังกล่าวด้วย ก็จะทำให้สีที่ทำเกาะติดผมดียิ่งขึ้น แต่คนผมแห้งไม่ควรใช้มะนาวเนื่องจากกรดจะไปกัดผม

          ไข่ มีองค์ประกอบของเลซิติน โปรตีน ธาตุเหล็ก วิตามินเอ ดี และอี คอเลสเตอรอล และแอนติออกซิแดนต์ ที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้หนังศีรษะและเส้นผมแข็งแรงมีสุขภาพดี

เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนซัมเมอร์จะมา

เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนซัมเมอร์จะมา (Health plus)


          พูดถึงซัมเมอร์ทีไร สาว ๆ หลายคนต้องรีบเดินหนีหาที่บังแดดเป็นการด่วน แต่ดูจะเป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเกินไปหรือเปล่า แน่นอนซีซั่นใหม่ใกล้มาถึงเต็มที เผลอ ๆ เดือนนี้บ้านเราเข้าหน้าร้อนแล้วด้วยซ้ำ ยังพอมีเวลาอยู่ค่ะ เตรียมรับมือกับสิ่งละอันพันละน้อย ก็น่าจะทำให้เราชิลกับซัมเมอร์ได้ตลอดฤดู

          ผิวคุณพร้อมหรือเปล่า...ช่วงย่างเข้าหน้าร้อน อาจมีฝนตกได้บ้าง อากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนนี้แหละ อันตรายนักแล สำหรับสาว ๆ ที่ไม่ค่อยเตรียมพร้อมรับมือ

Do


  •         ติดตามพยากรณ์อากาศ ก่อนออกจากบ้าน เพราะช่วงนี้อากาศบ้านเราเอาแน่เอานอนไม่ได้ การอัพเดตข่าวสารสำคัญมากสำหรับการเตรียมรับมือ
  •        ดื่มน้ำอย่างน้อย 6 - 8 แก้ว หรือ 1.5  ลิตรต่อวัน น้ำจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ
  •        หมั่นทาครีมกันแดด ควร เลือกใช้ที่มี SPF15 ขึ้นไปและมี PA+++ ยิ่งบวกมากยิ่งดี ครีมกันแดดก็เป็นสิ่งสำคัญในหน้าร้อน ผิวที่เผชิญแสงแดดแรง ๆ บ่อย ๆ ไม่เพียงแต่เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนัง เท่านั้น แต่ยังทำให้ผิวหยาบกร้าน หมองคล้ำ เหี่ยวย่น ทำให้เกิดฝ้า กระและจุดด่างดำได้
  •        เช้าแดดจ้า บ่ายฝนตก สาว เมืองใหญ่หากเปียกฝน ควรอาบน้ำทันที เพราะในน้ำฝนอาจมีฝุ่นละออง เชื้อแบคทีเรียปะปนอยู่ โดยใช้สบู่อ่อน ๆ เพื่อชำระล้างเชื้อโรคและคราบสกปรก ต่อด้วยทาครีมบำรุงผิว หลังอาบน้ำหรือล้างหน้าขณะผิวยังหมาด ๆ เพราะรูขุมขนยังเปิดให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้มากกว่า
  •        ควรมีโลชั่นบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ติดบ้านไว้บ้าง หรือว่านหางจระเข้สด ๆ ก็ดี เพราะในวันที่ผิวแสบร้อนจากการตากแดดในวันถัดมา


       Don’t


       การล้างหน้าบ่อย ๆ ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น ยิ่งกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากจนอาจเกิดสิวและอักเสบได้

       ไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะยิ่งทำให้หน้ามันมากขึ้นและอุดตันทำให้เกิดสิวได้ หมั่นดูแลความสะอาดของอุปกรณ์แต่งหน้า รวมทั้งก่อนนอนควรเช็ดล้างเครื่องสำอางออกให้หมด เพื่อเป็นการพักหน้า

          สำหรับสาวสปอร์ต...สาวสปอร์ตผู้รักการออกกำลังกาย เป็นสาวมั่นที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง พึงรู้ไว้เพื่อรับมือก่อนผิวคุณจะเสีย โดยมีคำแนะนำจาก นพ.อิทธิชัย วัชรีคุปต์ จาก โรงพยาบาล กล้วยน้ำไท "สาว ๆ ทุกวันนี้มักคิดกันว่า ไม่ควรออกกำลังกายกลางแจ้ง แต่การออกกำลังกายกลางแจ้งไม่ว่าจะเล่นกีฬาชนิดใด เป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจากผิวต้องการวิตามินดีจากแสงแดด เพื่อใช้ในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ถ้าเป็นการออกกำลังกายช่วงที่อากาศเย็นสบาย ไม่มีแสงแดดแรง ก็ไม่ส่งผลร้ายต่อผิวสวยของคุณ ถึงแม้จะเป็นการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานก็ตาม แต่ช่วงเวลาที่คนอื่นเขาเลี่ยงแดดกัน สาวมั่นอย่างคุณ ก็ควรตามกระแสหลบแดดหลบฝนบ้าง ช่วงเวลาที่ควรเลี่ยงไม่ควรออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งคือ ตั้งแต่ 10.00-16.00 น."

             1.  โยเกิร์ต ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และลดความอ่อนล้าให้สดชื่นขึ้น กระตุ้นต่อมน้ำลายไม่ให้รู้สึกกระหายน้ำ ช่วยดูดซับของเสียและแบคทีเรีย รวมถึงปรับสมดุลของกรดในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย

             2.  สลัดผัก 1 จาน ประกอบด้วยผักและผลไม้หลากชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีน้ำและเกลือแร่ ช่วยทดแทนน้ำที่เสียไปได้ ถ้าเป็นสลัดที่มีแตงกวา มะเขือเทศและองุ่นเม็ดโตด้วยก็จะดีไม่น้อย เท่ากับเราเติมน้ำเข้าไปปรับสมดุลภายใน

             3.  แต่งหน้าใส ๆ เผยผิว เน้นการแต่งหน้าแบบเผยผิวจริง เหมือนไม่ได้แต่งอะไรมาเลย ที่ควรติดกระเป๋าไว้ คือ แป้งฝุ่น และลิปกลอส มีของ 2 อย่างนี้ ซัมเมอร์นี้รอดแน่

             4.  เสื้อผ้าโทนสีขาว เท รนด์ซัมเมอร์ปีนี้ว่ากันว่า โทนสีขาวดั่งสาวบริสุทธิ์กำลังมาแรง แฟชั่นนิสต้าบางคนเลือกเป็นสีพื้น ๆ แล้วแมตช์กับแอคเซสซอรี่หลากสี อ้อ...เสื้อผ้าลายทาง เอาท์ไปแล้วนะจ๊ะบอกไว้ก่อน

             5.  รองเท้าแตะริมหาด ถ้าเป็นปีที่แล้วส้นตึกอาจจะอินนะคะ แต่ปีนี้สาวฮอลลีวู้ดหลายนางต่างก็ชิล ๆ กัน ในชุดสบาย ๆ สไตล์แตะ ๆ กันทั้งนั้น

             6.  แอคเซสซอรี่ขนนก งานนี้สาวเอเชียเป็น ผู้นำเทรนด์เลยนะคะ ต่างหูขนนกโดดเด่นพลิ้วไหว เล่นลมราวกับโมบายริมหาดหลายสี ไม่ว่าจะถูกหรือแพง คอนเฟิร์มได้ ซัมเมอร์นี้อินนานแน่


ที่มา :: http://women.kapook.com/view39551.html

อบไอน้ำให้ผิวสวย..

การอบไอน้ำจริงแล้วไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะเส้นผมเท่านั้น สำหรับใบหน้า แต่ผิวก็จะได้รับด้วยเช่นกัน
ซึ่ง วิธีการอบไอน้ำใบหน้าง่ายมาก

•1. เตรียมน้ำเดือดจัดใส่ชาม ทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที เพื่อให้อุณหภูมิลดลงเหลือประมาณ 80 องศาเซลเซียส ใส่น้ำมะนาวครึ่งผลหรือชาคาโมมายล์ครึ่งถ้วย อาจใส่เอสเซนเชียลออยล์กลิ่นที่ชอบประมาณ 2 หยด เพื่อความผ่อนคลาย
•2. อังหน้าเหนือชามประมาณ 20 เซนติเมตร นาน 10 นาที สำหรับคนที่มีปัญหาเส้นเลือดฝอยที่ผิวหน้าให้ลดเวลาลงเหลือ 5 นาที
•3. นั่งพักหน้าประมาณ 1 นาที แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเย็นซับหน้าเพื่อกระชับรูขุมขน
สาว ๆ สามารถทำได้ไม่ยากเลยค่ะ วันหยุดนี้อย่าลืมนำวิธีอบไอน้ำนี้ไปใช้กันดูนะคะ..

ผิวหน้าสวยด้วยฟักทอง


หากพูดถึงผลไม้สีเหลืองผลหนักอย่างฟักทอง เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงจะนึกถึงสรรพคุณในเรื่องการช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผล นั่นเพราะฟักทองช่วยทำให้อิ่มท้องได้นานนั่นเอง แต่สาว ๆ เชื่อมั้ยคะว่า จริง ๆ แล้วฟักทองมีประโยชน์ด้านความสวยความงามมากกว่านั้น เพราะมันสามารถนำมาพอกหน้าเพื่อผิวหน้าสวยใสได้ด้วยแน่ะ และแน่นอนค่ะว่าเรื่องดี ๆ แบบนี้ กระปุกดอทคอมไม่มีพลาดแน่ ๆ ว่าแล้วก็ตามไปดูกันเลยค่ะว่าฟักทอง ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินอีและทีนี้ จะนำมาใช้พอกหน้าได้ยังไงกันบ้าง

สูตรมาสก์หน้าฟักทองสำหรับสาวผิวแห้ง ใช้ฟักทองต้มแล้วกวนโดยผสมน้ำเล็กน้อย เสร็จแล้วผสมเข้ากับน้ำมันมะกอก นำมาพอกหน้าแล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้ผิวนุ่มนวลค่ะ

สูตรมาสก์หน้าฟักทองสำหรับสาวผิวมัน ใช้ฟักทองต้มแล้วกวนโดยผสมน้ำเล็กน้อย แล้วผสมเข้ากับน้ำมันมะกอก นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น หรือจะใช้ฟักทองบดเข้ากับไข่ขาว กวนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น พร้อมกับใช้ฟักทองสดฝานแล้ววางบนใบหน้าทุกวัน จะช่วยในเรื่องของสิวได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

สูตรมาสก์หน้าฟักทองสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ให้กวนฟักทองกับไข่แดง ผสมเข้ากับน้ำผึ้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วรอให้เนื้อฟักทองอุ่น ๆ นำไปพอกหน้า 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

นอก จากจะนำมาพอกหน้าแล้ว ฟักทองยังสามารถนำไปทำเป็นครีมเพื่อทาใบหน้าในแต่ละวันได้ด้วย โดยใช้ฟักทองนึ่งบด ผสมให้เข้ากับนมแล้วต้มโดยผสมน้ำเล็กน้อย จากนั้นใส่น้ำมันมะพร้าวลงไปแล้วคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนตักใส่กระปุกแล้วแช่เย็นไว้ นำมาทาผิวหน้าทุกเช้าก่อนอาบน้ำ 15 นาที เพื่อผิวหน้าสวยใสได้อีกด้วย

http://women.kapook.com/view16676.html

เคล็ดลับดูแลผิวพรรณสำหรับคุณผู้ชาย



 ความสวยความงามใช่ว่าจะมีแต่ในสุภาพสตรีเท่านั้น และก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าเหล่าสุภาพบุรษจะหันมาดูแลใส่ใจในเรื่องความสวยความงามของผิวพรรณจะต้องเป็นเกย์หรือแอบจิต เพราะปัจจุบันสังคมเปลี่ยนไปสิ่งแวดล้อมเป็นพิษมากขึ้น ถ้าเราปล่อยปละละเลยในการดูแลสุขภาพและผิวพรรณไปแล้วเนี่ย เชื่อได้เลยว่าริ้วรอยแห่งวัยจะมาเยี่ยมเยียนใบหน้าคุณได้ง่ายและเร็วมากๆ ด้วยเหตุนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ลักษณะผิวพรรณของผู้หญิงกับผู้ชายแตกต่างกัน ผู้หญิงจะเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าผู้ชายที่เห็นได้ชัดก็อย่างเช่น ความนุ่มนวลของผิว หรือจะเป็นเรื่องขน หนวดเครา หรือเรื่องของรูขุมขนก็ตาม  ล้วนเป็นเหตุให้การดูแลผิวพรรณของคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงอาจจะแตกต่างกันบ้าง  โดยเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆที่จะขอแนะนำสำหรับการดูแลผิวสำหรับผู้ชายคือ 


1. การล้างหน้าอย่างถูกวิธี      

          การทำความสะอาดผิวหน้าขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับลักษณะผิวของตัวเองคือโดยที่สามารถตรวจสอบลักษณะผิวพรรณของคุณได้ตามศูนย์ความงามทั่วไป


1.1 ผิวมัน เป็นผิวที่มักมีน้ำมันเคลือบผิวมากทั่วหน้า เกิดสิวง่าย รูขุมขนใหญ่ชัดเจนควรใช้ผลิตภัณท์ทำความสะอาดผิวที่ทำให้ผิวแห้งลง อย่างที่เป็นสบู่ก้อนหรือโฟม ก็จะดีกว่าเจลใสหรือน้ำเปล่า หลังล้างหน้าแล้ว การเช็ดทำความสะอาดด้วยOil control หรือ Toner ก็จะช่วยให้การทำความสะอาดผิวหมดจดดียิ่งขึ้น


1.2 ผิวผสม  เป็นผิวที่มักมีน้ำมันเคลือบเยอะบริเวณทีโซน (หน้าผาก จมูก หรือคาง) แต่บริเวณแก้มกลับแห้งตึง รูขุมขนกว้างแต่ไม่เห็นชัดมาก  ควรเลือกผลิตภัณท์ทำความสะอาดผิวแบบที่ไม่ลดความมันมากเกินไป เช่นแบบเจลใส  โดยหลังล้างหน้าเลือกOil controlหรือ Tonerเช็ดทำความสะอาดบริเวณทีโซน


1.3 ผิวธรรมดา  เป็นผิวที่มักมีน้ำมันเคลือบในปริมาณที่พอเหมาะ  รูขุมขนเห็นไม่ชัด  ควรเลือกผลิตภัณท์ทำความสะอาดผิวแบบอ่อนๆเช่นเจลใส  หลังล้างหน้าใช้Lotion เช็ดผิวเป็นครั้งคราว


1.4  ผิวแห้ง   เป็นผิวที่ขาดน้ำมันเคลือบผิว บางรายอาจลอกเป็นขุยๆ รูขุมขนเล็ก มักจะเป็นผิวที่แพ้ง่าย คนผิวแห้งจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณท์ทำความสะอาดผิว หรือLotionโดยไม่จำเป็น  ใช้แค่น้ำเปล่าล้างหน้าก็พอค่ะ      

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

มาร์คหน้าสำหรับสาวผิวมัน




เอามาฝากสำหรับสาวๆที่มีผิวมันหน้ามันนะค่ะ....หน้าจะมีประโยชน์สำหรับใครหลายๆคน

ผิวขาวใส ไม่ยากอย่างที่คิด

          การดูแลผิวขาวใสนั้น ต้องดูแลตั้งแต่วัยรุ่นนะจ๊ะ ว่าคือยิ่งเราดูแลผิวตัวเองเร็วแค่ไหน ยิ่งทำให้ผิวเราดูเด็กมากขึ้นนั้น ไร้ปัญหาริ้วรอยกว่าวันอันควร และยืดความเสื่อมของเซลล์ผิวได้มากขึ้นค่ะ โบว์มี 5 สิ่งที่ควรปฏิบัติ เพื่อช่วยให้ผิวขาวใส และผิวสวยดูสดใสไปนานๆค่ะ



          การดูแลผิวขาวใสนั้น ต้องดูแลตั้งแต่วัยรุ่นนะจ๊ะ ว่าคือยิ่งเราดูแลผิวตัวเองเร็วแค่ไหน ยิ่งทำให้ผิวเราดูเด็กมากขึ้นนั้น ไร้ปัญหาริ้วรอยกว่าวันอันควร และยืดความเสื่อมของเซลล์ผิวได้มากขึ้นค่ะ โบว์มี 5 สิ่งที่ควรปฏิบัติ เพื่อช่วยให้ผิวขาวใส และผิวสวยดูสดใสไปนานๆค่ะ

1.ครีมกันแดด ควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านให้ติดเป็นนิสัยนะจ๊ะ เพราะแสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต ทำให้ผิวเราเสื่อมได้มากถึง 80%เชียวนะ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวขาวใสของเราเกิดริ้วรอย และเหยี่ยวย่นค่ะ
2.ท่านอน การนอนของคนเราอย่างน้อยต้องใช้เวลาถึง 6-8 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับคนที่ชอบนอนซุกหน้ากับหมอนจะทำให้ด้านที่ตะแคงเข้าหาหมอนเกิดริ้วรอยมากกว่าอีกด้านนึงค่ะ เพราะฉะนั้นเราควรเปลี่ยนท่านอนมาเป็น ท่านอนหงายหรือเลือกใช้หมอนที่อ่อนนุ่ม และเลือกปลอกหมอนที่มีเนื้อผ้าลื่นๆ เช่น ผ้าซาติน เพื่อแก้ปัญหาตรงจุดนี้ และหน้าขาวใสของเราก็จะปราศจากริ้วรอยค่ะ
3. อาหาร ผิวขาวใสมาจากอาหารที่ดี มีประโยชน์ ครบหมดหมู่นะจ๊ะ โดยเฉพาะวิตามินที่ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว ได้แก่ วิตามินเอ ซี และอีค่ะ อย่างเช่น ผักสดและผลไม้สดค่ะ และเมื่อทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว อย่าลืมดื่นน้ำให้มากๆประมาณ 6-8แก้วต่อวันนะค่ะ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น สดใสให้แก่ผิวค่ะ
4. พักผ่อน ต้องรู้จักการพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ เพราะผิวขาวใสของเรานั้นจะมีได้ ต้องเริ่มมาจากสุขภาพที่ดีนะจ๊ะ ถ้าเราสุขภาพดี แข็งแรง ผิวพรรณของเราก็จะสวย สดใสตามไปด้วยค่ะ
5. ผ่อนคลาย ความเครียดเป็นบ่อเกิดของใบหน้าหมองคล้ำ ริ้วรอย สิว และอื่นๆนะจ๊ะ เพราะฉะนั้น เราควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียดบาง อย่างเช่น การนั่งสมาธิ การฟังเพลง เดินเล่น เป็นต้น ก็ช่วยลดความเครียดได้ค่ะ
นี่คือ 5 วิธีง่ายๆเพื่อผิวขาวใสที่คุณก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนนะจ๊ะ
Tips:
  • การทาครีมกันแดด ควรเลือก SPF ให้เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพผิวนะจ๊ะ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุดค่ะ
  • เมื่อต้องออกแดด หรืออยู่กลางแจ้ง ควรสวมหมวก สวมเสื้อผ้า หรือหาเครื่องปกป้องผิวขาวใสบ้างนะจ๊ะ เพื่อไม่ให้ผิวขาวใสกระทบกับแสงแดดโดยตรง
  • ขณะขับรถ หรือเดินทางในที่แดดจ้า ควรสวมแว่นตากันแดดนะค่ะ เพราะถ้าคุณไม่สวมแว่นตากันแดด จะทำให้เราหยีตาโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยค่ะ
  • สดใสตลอดเวลา ถ้าเราสดใส สดชื่นตลอดเวลา จะทำให้เราเลิกทำหน้านิ่วคิ้วยุ่งๆตลอดเวลา และทำให้ผิวขาวใสของเราดูน่ามองมากขึ้นค่ะ
  • งดการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยนะจ๊ะ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญในการทำลายผิวหนังให้เสื่อมก่อนวัยอันควรค่ะ
  • การอดนอนบ่อยๆ จะทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำ อิดโรย ไม่สดใส และเกิดริ้วรอยก่อนวันอันควรค่ะ

10 เคล็ดลับผิวสวยไม่กลัวหนาว


10 เคล็ดลับผิวสวยไม่กลัวหนาว


          เวลาลมหนาวโชยมา ก็คือเวลาที่ผิวสวยต้องโบกมือลา แต่ไม่ใช่สาวๆ อย่างเราแน่เพราะเคล็ดลับเหล่านี้ ....

    1. พกลิปมันติดกระเป๋าไว้ตลอดเวลา และหยิบมาทาทุกๆ 3 ชั่วโมง ควรเลือกใช้ลิปมันที่มีส่วนผสมของสารกันแดด SPF15 ยิ่งถ้าอยู่ในพื้นที่ที่หนาวจัดมากๆ ควรจะใช้ลิปมันชนิดที่มีส่วนผสมของน้ำมันทีทรี เพราะจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นได้ดีกว่า
    2. ทานอาหารที่วิตามินเพื่อสร้างความแข็งแรงให้ผิว อย่างผักสด ผลไม้ นม ไข่ และงดอาหารที่ทำให้ผิวแห้งอย่างชา กาแฟ อาหารเค็มจัด เหล้า
    3. ฤดูนี้เซลล์ผิวจะอักเสบได้ง่าย จึงไม่ควรขัดผิวแรงๆ ไม่ควรอาบน้ำร้อน และเปลี่ยนมาใช้สบู่ที่อ่อนลง หรือเจลอาบน้ำที่ผสมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวระหว่างที่อาบน้ำไปด้วย
    4. ยาบางชนิด เช่น ยารักษาสิว ยาลดความอ้วน ยาขับปัสสาวะ จะทำให้ผิวแห้งยิ่งขึ้น คนที่ใช้ยาพวกนี้จึงต้องทาครีมที่มีความเข้มข้นมากขึ้น และทานอาหารที่ช่วยบำรุงผิว อย่าง เช่น อะโวคาโด น้ำมันปลา เมล็ดทานตะวัน
    5. ทาครีมหลังอาบน้ำประจำ โดยเฉพาะเรียวขา เพราะเป็นส่วนที่ผิวแห้งง่ายกว่าส่วนอื่น
    6. อากาศแบบนี้หนังศีรษะจะแห้งมากเป็นพิเศษจนกลายเป็นรังแค สาวๆ จึงควรจะเปลี่ยนมาใช้แชมพูสระผมอ่อนๆ และอย่าลืมตามด้วยครีมนวดผมทุกครั้ง
    7. ถึงแฟชั่นกางเกงขาสั้นกำลังอินเทรนด์ แต่ถ้าต้องอยู่ในที่อากาศเย็น ก็ควรใส่กางเกงที่ปกปิดผิวกาย เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของเราเสียน้ำจนแตกเป็นขุย
    8. สวยทั้งตัวแล้วอย่าลืมรักษามือให้นุ่มนวล ชวนมองด้วย พกครีมติดกระเป๋าไว้สักหลอด และหยิบออกมาทาทุกครั้งที่ล้างมือด้วยสบู่ เพื่อถนอมมือให้เนียนนุ่ม
    9. อย่าล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพราะความร้อนจะยิ่งทำให้ผิวหน้าแห้งกร้าน น้ำเย็นธรรมดาๆ นี่ล่ะคือเคล็ดลับการรักษาผิวหน้าให้รูขุมขนกระชับ
    10. เวลาทาตัวด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์แล้วมีครีมเหลือติดมือ อย่าทิ้งให้เสียของ ลูบครีมที่เหลือไปตามปลายเส้นผมเพื่อป้องกันผมแตกปลายเลยดีกว่า และยังจะช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิต ทำให้ผมไม่ชี้ฟูเป็นหมูหยองอีกด้วย

เคล็ดลับความสวยในวิธีต่างๆ

สาวๆหลายๆคนมักมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องผิวหน้า ผิวกาย วันนี้เราจึงนำเคล็ดลับความสวยในวิธีต่างๆมาฝากค่ะ
เคล็ดลับความสวยในวิธีต่างๆ

เคล็ดลับความสวย ดูแลข้อศอกและหัวเข่าด้วยน้ำผึ้ง



ข้อศอกและหัวเข่า ต้องได้รับการดูแลตลอด แม้ไม่ใช่ฤดูหนาวก็ตาม เพื่อไม่ให้ผิวพรรณบริเวณนั้นนุ่มนวลไม่แห้งกร้าน โดยเฉพาะในฤดูหนาวหรือคนที่ต้องทำงานในห้องแอร์ตลอด ข้อศอกและหัวเข่านั้นจะดูแห้งกร้านและมีรอยคล้ำจนเห็นได้ชัดกว่าส่วนอื่นๆ เคล็ดลับความสวย ในตอนนี้เรามาดูแลผิวพรรณบริเวณข้อศอกและหัวเข่าด้วยน้ำผึ้งกันดีกว่า
* ขั้นตอนแรก เตรียมน้ำผึ้งแท้ประมาณ 6-7 ช้อนโต๊ะ แล้วนำไปอุ่นให้พอดี อย่าให้ร้อนจนเกินไป
* ขั้นตอนที่สอง ทำความสะอาดข้อศอก มือและหัวเข่าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่ แล้วซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนู
* ขั้นตอนสุดท้าย ใช้ปลายนิ้วแตะน้ำผึ้งอุ่นๆที่เตรียมไว้ มาทาถูให้ทั่วๆข้อศอกและหัวเข่าทั้ง 2 ข้าง ขณะกำลังทาน้ำผึ้งนั้นก็ให้ออกแรงนวดคลึงบริเวณนั้นด้วย ทาจนน้ำผึ้งที่เตรียมไว้จนหมด แล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่ เป็นอันเรียบร้อย
เคล็ดลับความสวย ด้วยน้ำผึ้งนี้ควรทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อผิวพรรณที่นุ่มนวลไม่แห้งกร้าน

เคล็ดลับความสวย ดูแลผิวหน้ามันด้วยสับปะรด


ผิวหน้ามันเป็นผิวพรรณที่มีปัญหา สำหรับผู้หญิง การแต่งหน้าจะทำได้ยากบนใบหน้าที่มัน และแม้แต่งหน้าไปแล้วก็จะสวยได้ไม่นานก็มันเยิ้มขึ้นมาอีก สำหรับผู้ชาย ก็ทำให้เสียบุคคลิก หมดเสน่ห์ไม่น่ามอง และใบหน้ามันก็เป็นบ่อเกิดของสิวอีกด้วย การล้างหน้าบ่อยๆในระหว่างวันก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่ทางที่ดีที่สุดคือการดูแลรักษาผิวหน้าเป็นประจำ เคล็ดลับความสวย ในตอนนี้จะลดความมันบนผิวหน้าด้วยสับปะรด แถมใบหน้าจะสะอาดเกลี้ยงเกลาสดใส ไร้สิวและริ้วรอย มาลองทำกันดีกว่าค่ะ
* ขั้นตอนแรก เตรียมสับปะรดเปรี้ยว 1/4 ผล มีด ส้อม ถ้วย และที่คาดผมหรือหมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำ
* ขั้นตอนที่สอง ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า ซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนู แล้วเก็บผมให้เรียบร้อยด้วยที่คาดผมหรือหมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำ
* ขั้นตอนที่สาม ล้างสับปะรดที่เตรียมไว้ให้สะอาด สะบัดน้ำออก แล้วนำมีดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆใส่ในถ้วย แล้วใช้ส้อมยีสับปะรดให้เละ
* ขั้นตอนสุดท้าย พอกสับประรดให้ทั่วใบหน้า ยกเว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ทิ้งไว้สัก 25-30 นาที แล้วทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า ซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนู เป็นอันเรียบร้อย
เคล็ดลับความสวย ด้วยสับประรดนี้ควรทำเป็นประจำทุกๆ 5 วันจะได้ผลดี แล้วใบหน้าคุณจะสดใสไร้ความมัน

เคล็ดลับความสวย ใบหน้าเนียนขาวใสด้วยสตรอเบอรี่




เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน ใบหน้าของเราจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไม่สดใสเหมือนวัยเยาว์ มักจะมีริ้วรอยต่างๆทำให้แลดูแก่กว่าวัย และแม้ในวัยรุ่นวัยหนุ่มสาวบางคน ก็มีไม่น้อยที่มีริ้วรอยจนดูแกกว่าอายุ อาจเกิดจากการได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน พักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพอ ความเครียด หรือการโดนแดดลมบ่อยๆ เคล็ดลับความสวย ในตอนนี้จะใช้สตรอเบอร์รี มาบำรุงผิวหน้าเพื่อให้หลีกไกลจากริ้วรอย ไฝฝ้าและจุดด่างดำบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าของคุณแลดูสดชื่น เนียนขาวใสอมชมพู เหมือนวัยแรกรุ่นเลยทีเดียว มาลองทำตามกันเลยดีกว่าค่ะ
* ขั้นตอนแรก เตรียมสตรอเบอร์รีประมาณ 8-10 ผล เครื่องปั่นหรือส้อม ที่คาดผมหรือหมวกคลุมสำหรับอาบน้ำ
* ขั้นตอนที่สอง ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า ซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนู เก็บผมให้เรียบร้อยด้วยที่คาดผมหรือหมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำ
* ขั้นตอนที่สาม นำสตรอเบอร์รีที่เตรียมไว้ มาใช้ส้อมยีให้เละ แต่ถ้าจะใช้เครื่องปั่น ก็อย่าปั่นให้ละเอียดจนเกินไป
* ขั้นตอนสุดท้าย พอกใบหน้าด้วยสตรอเบอร์รีที่เตรียมไว้ให้ทั่ว โดยเว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ทิ้งไว้นานประมาณ 25-30 นาที ห้ามเคลื่อนไหวใบหน้าเด็ดขาด เมื่อได้เวลาแล้วให้ทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า เป็นอันเสร็จขั้นตอนค่ะ
เคล็ดลับความสวย ด้วยสตรอเบอร์รี ควรทำเป็นประจำทุกๆ 2-3 วัน เพื่อใบหน้าเนียนขาวใสอมชมพู

เคล็ดลับความสวย บำรุงด้วยว่านหางจระเข้หลังโดนแดด



เรามักจะมีปัญหาสภาพผิวหลังจากโดนแดดมากเกินควร อาจจะเกิดจากการทำงาน เล่นกีฬา ออกกำลังกายหรือไปเที่ยวทะเล ทำให้เรารู้สึกผิวหน้าของเราไหม้หรือรู้สึกแสบๆตึงๆ แล้วล่ะก็ คุณควรหาทางบำรุงรักษาอย่างเร่งด่วนในทันที ก่อนจะเกิดไฝ ฝ้า กระและจุดด่างดำต่างๆ เคล็ดลับความสวย ในตอนนี้ เราจะใช้ว่านหางจระเข้เพื่อรักษา หรือจะถนอมบำรุงก่อนออกแดดเพื่อป้องกันไว้ก่อน เพื่อใบหน้าที่สดใสสดชื่น ไร้รอยใดๆบนใบหน้า มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
* ขั้นตอนแรก เตรียมว่านหางจระเข้ มีด เครื่องปั่นหรือส้อม ถ้วย ที่คาดผมหรือหมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำ เวลาไปตัดว่านหางจระเข้ ให้เราเอากระดาษทิชชูแปะไว้ตรงรอยถูกเฉือนด้วย
* ขั้นตอนที่สอง ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า แล้วซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนู เก็บผมให้เรียบร้อยโดยใช้ที่คาดผมหรือหมวกคลุมผม
* ขั้นตอนที่สาม นำว่านหางจระเข้มาตัดเป็นท่อนสั้นๆ แล้วปอกเปลือกออกให้เหลือแต่วุ้นที่อยู่ข้างใน แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด ต่อจากนั้นนำวุ้นที่ได้ไปปั่นหรือใส่ถ้วยแล้วเอาส้อมยีให้เละพอประมาณ ไม่ต้องถึงกับละเอียด
* ขั้นตอนสุดท้าย ใช้ปลายนิ้วแตะวุ้นที่เตรียมไว้ นำมาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า โดยเริ่มจากหน้าผาก แก้ม จมูกและคาง เว้นรอบๆดวงตาและริมฝีปาก โดยระหว่างที่ทาไปนั้น ก็ให้ใช้ปลายนิ้วกดนวดคลึงผิวไปด้วย เมื่อทาจนทั่วแล้วปล่อยทิ้งไว้สัก 25-30 นาที ห้ามเคลื่อนไหวใบหน้าโดยเด็ดขาด แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เคล็ดลับความสวย ด้วยว่านหางจระเข้ ควรบำรุงเป็นประจำทุกๆ 2-3 วัน หรือก่อนและหลังออกแดดจัดๆ เพื่อใบหน้าที่ขาวใส ไร้ริ้วรอย

เคล็ดลับความสวย ขจัดริ้วรอยด้วยมะม่วงสุก


มะม่วงสุกนอกจากนำมารับประทานแล้ว ยังมีประโยชน์ช่วยรักษาบำรุงผิวหน้า ช่วยทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่น กระฝ้า จุดด่างดำต่างๆนั้น จะค่อยๆจางลงจนเลือนหายไปในที่สุด และช่วยให้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาสะอาดสะอ้าน ปราศจากร่องรอย เรามาลอง เคล็ดลับความสวย ด้วยมะม่วงสุกกันดีกว่า
* ขั้นตอนแรก เตรียมมะม่วงสุก 1 ผล มีด เครื่องปั่นหรือส้อม และที่คาดผมหรือหมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำ
* ขั้นตอนที่สอง ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า แล้วใช้ผ้าขนหนูซับให้แห้ง เก็บผมให้เรียบร้อยด้วยที่คาดผมหรือหมวกคลุมผม
* ขั้นตอนที่สาม นำผลมะม่วงสุกมาล้างให้สะอาด แล้วใช้มีดปอกเปลือกแล้วหั่นมะม่วงเป็นชิ้นบางๆ ส่วนเม็ดจะกินหรือทิ้งก็แล้วแต่ ใช้ส้อมยีหรือเครื่องปั่น แต่ไม่ต้องให้ละเอียดมากเกินไป ควรให้มีเนื้อหยาบๆของมะม่วงอยู่ด้วย
* ขั้นตอนสุดท้าย ใช้นิ้วแตะมะม่วงที่เตรียมไว้ นำมาพอกให้ทั่วใบหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก เมื่อพอกจนหมดเนื้อมะม่วงที่เตรียมไว้ ก็ทิ้งไว้ประมาณ 25-30 นาที โดยห้ามเคลื่อนไหวใบหน้าเด็ดขาด เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว ทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า เป็นอันเสร็จขั้นตอน
เคล็ดลับความสวย ด้วยผลมะม่วงสุกนี้ ควรทำเป็นประจำทุกๆ 5 วัน เพื่อใบหน้าที่สดใสเต่งตึง

เคล็ดลับความสวย ขัดหน้าด้วยรำข้าว





การขัดหน้าเป็นประจำสม่ำเสมอ จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป จะช่วยให้ใบหน้าของเราแลดูผุดผ่อง เกลี้ยงเกลา ขาวใสนวลเนียน เคล็ดลับความสวย ขัดหน้าด้วยรำข้าว ในตอนนี้ถ้าทำเป็นประจำแล้ว จะช่วยขจัดรอยด่างดำ ไฝและฝ้าต่างๆด้วย มาเริ่มลงมือทำกันเลยดีกว่า
* ขั้นตอนแรก เตรียมรำข้าวละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ นมเปรี้ยว 3 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเล 1/2 ช้อนโต๊ะ ถ้วย ช้อน และที่คาดผมหรือหมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำ
* ขั้นตอนที่สอง ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า แล้วซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนู เก็บผมให้เรียบร้อยโดยใช้ที่คาดผมหรือหมวกคลุมผม
* ขั้นตอนที่สาม นำรำข้าวผสมกับเกลือทะเลใส่ในถ้วยที่เตรียมไว้ แล้วเติมนมเปรี้ยวลงไป ใช้ช้อนคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แต่อย่าให้เหลวเกินไป ควรเป็นเนื้อครีมที่ค่อนข้างข้นและเหนียวพอสมควร
* ขั้นตอนสุดท้าย ใช้ปลายนิ้วแตะครีมรำข้าวที่เราผสมไว้ ทาไล่จากหน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง จมูกและคางให้ทั่ว โดยเว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ระหว่างที่ทาให้ทั่วใบหน้านั้น ก็ใช้ปลายนิ้วของเรากดนวดใบหน้าของเราไปด้วย เมื่อทาจนครีมหมดแล้ว ก็ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที โดยห้ามเคลื่อนไหวใบหน้าโดยเด็ดขาด เมื่อครบเวลาที่กำหนดแล้ว ก็ล้างหน้าออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า เป็นอันเสร็จขั้นตอน
เคล็ดลับความสวย ด้วยรำข้าวนี้ ควรทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ จะได้ผลที่ดี แต่ถ้าผิวมีบาดแผล ก็ควรงดทำไปก่อน เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบหรือการปวดแสบได้

เคล็ดลับความสวย บำรุงเล็บด้วยมะนาว

การดูแลสุขภาพนั้น ต้องดูแลทุกส่วนของร่างกาย ในตอนนี้มาแนะนำถึงการดูแลเล็บมือและเท้ากัน นอกจากการเข้าร้านเสริมสวนให้ช่างตัดเล็บตัดหนัง ทาสีเล็บให้สวยกันแล้ว การบำรุงเล็บที่แท้จริงคือให้วิตามินกับเล็บเพื่อให้เล็บมีความแข็งแรงไม่แตกหักง่าย และมีความเงางามแม้ไม่ได้ทาสีเคลือบเล็บ มาเริ่ม เคล็ดลับความสวย บำรุงเล็บด้วยมะนาว กันเลยดีกว่า
เตรียมน้ำอุ่นใส่อ่างเล็กๆ แช่เท้าในอ่างประมาณ 2-3 นาที แล้วซับเท้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนู จากนั้นนำมะนาวสักครึ่งผล ไม่ต้องบีบน้ำออกนะคะ แล้วใช้มะนาวถูให้ทั่วทั้งเล็บและนิ้ว ถูไปเรื่อยๆจนทั่ว ถึงแม้น้ำมะนาวหมดแล้วก็ขัดถูต่อไปเรื่อยๆสักพัก แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นกับสบู่จนสะอาด ซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนู
เคล็ดลับความสวย ด้วยมะนาวนี้ควรทำทุกอาทิตย์ เพื่อบำรุงเล็บให้มีสุขภาพดี แต่ไม่ควรทำในช่วงที่เล็บหรือนิ้วมีบาดแผล เพราะจะทำให้เกิดการแสบจากฤทธิ์ของน้ำมะนาวได้

ดูแลหน้าใส ก่อนนอน


           เคล็ดลับหน้าใส มีอยู่หลายตำรับตำราด้วยกัน ตั้งแต่สูตรสมุนไพรโบราณ ที่หาได้ง่ายในห้องครัว ครีมบำรุงผิวสูตรต่าง ๆ เครื่องสำอางแต่งแต้มสีสันบนใบหน้า ไปจนถึงนวัตกรรมทรีตเมนต์ผิวหน้า ให้สวยกระจ่างใส
    แต่หลายคน คงจะลืมไปว่า การผิวหน้าที่สวยใสนั้น ไม่ใช่แค่การบำรุงแต่เพียงอย่างเดียว หากควรได้รับการพักผ่อนดูแล รักษาความสะอาด ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งไม่แพ้การดูแลผิวแบบอื่น ๆ....โดยเฉพาะก่อนนอน คุณได้ดูแลผิวหน้าคุณเป็นอย่างดีแล้วหรือยังเรามีเคล็ดลับการดูแลทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธีมาแนะนำกัน เพื่อจะได้มีใบหน้าที่สวยใส ไร้ริ้วรอย


ขั้นตอนแรก การบำรุงผิวหน้า - อยู่ที่การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวหน้าของแต่ละคน ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับคนที่ผิวหน้าแห้ง หรือผิวแพ้ง่าย ให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำนมเป็นหลัก เพราะจะช่วยทำความสะอาดและเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวเราด้วย สำหรับคนผิวมัน ให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งเป็นผลัก จะช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าด้วย
ขั้นตอนที่ 2 การทำความสะอาดใบหน้า - มีเรื่องที่ต้องใส่ใจอยู่ 2 เรื่องด้วยกัน
- การใช้ Cleansing ให้นวดทาทิ้งไว้ 30 วินาที - 1 นาที เพื่อให้ตัวครีมละลายสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง คราบไขมันอุดตัน
- การล้างหน้า ควรล้างหน้าใบเบาบางที่สุด ไม่ขัดถูแรง ๆ เพราะจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย อย่าใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้ง เพราะจะมีแรงกดมาก เป็นสาเหตุของริ้วรอย ใช้เพียงนิ้วกลางและนิ้วนางโดยเริ่มหมุนนิ้วออกเป็นวงกลม เริ่มจากบริเวณคาง คลึงนวดเบาๆ ไล่ขึ้นไปตามแก้ม ไล่จากบริเวณจุดกลางไปตามลายกล้ามเนื้อออกไปทางด้านข้าง ไล่ขึ้นไปที่หน้าผาก เป็นการต้านแรงโน้ม อาจจะเน้นบริเวณร่องจมูก เพื่อป้องกันการเกิดสิวเสี้ยน ส่วนวิธีการล้างออกนั้น ให้วักน้ำขึ้นมาแปะผิวหน้า ลูบเบา ๆ ห้ามถู เพราะจะทำให้เกิดริ้วรอยเช่นกัน
จากนั้นปล่อยให้ผิวหน้าเราได้พักผ่อน ด้วยการเข้านอนแต่หัวค่ำ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูสภาพผิว ตื่นเช้ามาก็จะมีผิวสวยสดใสเปล่งปลั่ง ที่สำคัญ ใครที่มีสิวบ่อย ๆ ใช้วิธีนี้ สิวจะลดลงด้วย อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันล่ะ

เรื่องของผิวเนียนเปล่งปลั่งกับน้ำมะพร้าว


น้ำมะพร้าว นับเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่จากธรรมชาติ เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุหลายอย่าง ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและผิวเนียน สวย สดใสนะค่ะ
-          การดื่มน้ำมะพร้าวทุกวัน จะช่วยชะลออาการอัลไซเมอร์
-          น้ำมะพร้าว ช่วยสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้นกว่าปกติ รวมทั้งไม่ทิ้งรอยแผลเป็นบนผิวเนียนให้ดูต่างหน้าอีกด้วยนะจ๊ะ
-          น้ำมะพร้าว ยังช่วยทำให้ผิวเนียนเปล่งปลั่ง สวย สดใส เพราะแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำมะพร้าว จะเป็นตัวสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ทำให้ผิวเนียนมีความกระชับ ยืดหยุ่น และ ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ค่ะ
-          น้ำมะพร้าว ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย หลังจากเล่นกีฬา ออกกำลังกาย ท้องเสีย ท้องร่วง หรือร่างกายเสียน้ำมาก ซึ่งจะทำให้ผิวเนียนของเราไม่ขาดความสดใสมากค่ะ
-          น้ำมะพร้าวเป็นอาหารบริสุทธิ์ เป็นเครื่องประทินผิวเนียนให้สวยสดใสยิ่งขึ้น และเป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงเส้นเอ็น ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ อย่างเช่น โรคกระดูก ท้องร่วง อาเจียน และขับพยาธิ เป็นต้นคะ
ชักชวนกันดื่มน้ำมะพร้าวทุกวัน เพื่อสุขภาพที่ดี และผิวเนียนสวย สดใสมากขึ้นนะจ๊ะ
Tips:
  • น้ำมะพร้าว ช่วยลดอาการเมาหลังการดื่มแอลกอฮอล์ได้นะจ๊ะ
  • เมื่อเปิดลูกมะพร้าว ควรดื่มน้ำมะพร้าวทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานนะค่ะ เพราะคุณค่าของผลไม้ที่จะได้รับจะลดลงเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่านไปนับจากเราตัดหรือหั่นผลไม้ชนิดๆนั้นๆ
  • ทุกเพศ ทุกวัย สามารถดื่มน้ำมะพร้าวได้ทุกวันนะค่ะ เพราะเป็นเครื่องดื่มจากธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายใดๆเหมือนน้ำอัดลม น้ำหวาน เป็นต้น แต่ไม่เหมาะสำหรับคนเป็นโรคไตและเบาหวานนะค่ะ เพราะมะพร้าวมีความหวาน
ถึงแม้ ผิวหนัง รอบดวงตา จะเป็นส่วนที่บอบบางที่สุดในร่างกาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อครีม

แสงแดดทำลายผิวแต่บำรุงกระดูก !!



                 ผู้หญิงจะรู้สึกเกรงกลัวแสงแดด เพราะรู้ดีว่าแสงแดดเป็นตัวการทำลายความงาม แถวหน้า ทำให้ผิว หมองคล้ำ เหี่ยวย่น รวมไปถึงฝ้ากระอีกสารพัน หากแต่หารู้ไม่ว่า การหลีกเลี่ยงแสงแดดมากเกินไป มีผลให้ร่างกายเกิดสภาวะโรคกระดูกพรุนได้ ซึ่งถือเป็นภัยเงียบที่ไม่ค่อยมีใครสนใจมากนัก กว่าจะรู้กระดูกก็เปราะบางไปเสียแล้ว
              จึงอยากให้คิดใหม่ กลับมาตระหนักถึงประโยชน์ของแสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้า ที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้ร่างกายสังเคราะห์ วิตามินดี ที่ มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิตามินดี ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานของแคลเซียม ทำให้กระดูกและฟันสมบูรณ์แข็งแรง
การสัมผัสแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้า เพียง 10 -15 นาทีต่อวัน ก็เพียงพอที่จะช่วยให้ไม่เป็นโรคกระดูกพรุน
โรค กระดูกพรุนนั้น สาวๆ รุ่นใหม่ มีอัตราเป็นโรคนี้กันมากขึ้นตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะมีพฤติกรรมความเป็นอยู่ที่เสี่ยงมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดื่มกาแฟ การสูบบุหรี่ การบริโภคอาหารไม่ครบถ้วน หรือละเลยการออกกำลังกาย ส่งผลให้ร่างกายไม่มีการสะสมแคลเซียมเพิ่มเติม แคลเซียมในกระดูกที่มีอยู่ ก็เสื่อมสลายตัวไปเรื่อยๆ จนทำให้โครงสร้างกระดูกเปราะบางและแตกหักได้ง่าย
ผู้หญิงมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนสูงกว่าผู้ชายหลายเท่า เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายที่แตกต่างกัน
ภาวะ ที่เนื้อกระดูกบางลง ทำให้ผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุน มักมีอาการปวดหลัง หลังค่อมโก่ง ปวดตามข้อ อาจมีอาการปวดบริเวณที่กระดูกยุบตัวลง กระดูกเปราะ และหักง่าย ผู้สูงอายุจึงต้องระวังการหกล้ม ตำแหน่งที่มักจะเกิดภาวะกระดูกพรุนและหักง่ายคือ กระดูกสันหลัง กระดูกข้อมือ กระดูกสะโพก
กระดูกสันหลังของผู้หญิงอายุ 55 – 75 ปี จะเกิดการยุบตัวมากกว่าในผู้ชาย ทำให้ผู้สูงอายุเตี้ยลงกว่าตอนหนุ่มสาว ผู้สูงอายุ ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงพบว่า เมื่ออายุมากกว่า 60 ปี พบอัตราการเกิดกระดูกสันหลังหักยุบถึงร้อยละ 30
กระดูกสะโพกหักมัก ต้องผ่าตัดรักษา กระดูกสะโพกหักอาจทำให้เดินไม่ได้หรือเสียชีวิตได้ โรคนี้เปรียบเหมือนภัยมืด ค่อยเป็นไปอย่างช้าๆ โดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ กว่าจะรู้ตัวก็กระดูกหักเสียแล้ว
ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ ต้องสะสมกระดูกไว้ให้มากที่สุดตั้งแต่อายุยังน้อย โดยรับประทานอาหารที่มีคุณค่าให้แคลเซียมสูงและออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การ ป้องกันที่ดีที่สุดคือการสะสมแคลเซียมให้กับกระดูกอย่างสม่ำเสมอ เริ่มต้นจากการรับประทานอาหาร ที่มีแคลเซียมสูง อาทิ ถั่วเหลือง ผักใบเขียว ปลาเล็กปลาน้อยต่างๆ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายกลางแจ้ง เพื่อรับแสงแดดอ่อนๆ ที่จะกระตุ้นให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินดีไปช่วยเสริมสร้างแคลเซียม
นอกจากนี้ ไม่ควรห่วงอ้วนมากจนเกินไป ต้องรับประทานไขมันบ้าง จำพวกไขมันชนิดดีที่พบในปลาทะเล หรือน้ำมันจากเมล็ดพืช เพราะวิตามินดีจะละลายได้ดีในไขมัน เหล่านี้นอกจากจะช่วยละลายวิตามินดีแล้ว ยังช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่นไม่หยาบกระด้างอีกด้วย ถ้าต้องการความสะดวก การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ช่วยเสริมแคลเซียมให้กับกระดูกก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
อย่างไร ก็ตาม ในปัจจุบัน ถ้าใครต้องการรู้ว่าตนเองเป็นโรคกระดูกพรุนหรือไม่ ต้องอาศัยเครื่องตรวจความหนาแน่นกระดูกเข้ามาช่วย โดยการทำงานของเครื่องจะเอ็กซ์เรย์มวลกระดูกบริเวณ ข้อมือ หรือ ข้อเท้า แล้วประมวลผลออกมาเป็นกราฟ ชึ้ให้เห็นสภาวะของกระดูกได้อย่างชัดเจน ส่วนใหญ่จะมีบริการอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ และมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

คุณผู้ชายควรบำรุงผิวหรือไม่?





              สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาว lady.one.in.th นะคะ โบว์พูดถึงการดูแลผิวของคุณผู้หญิงมาก็มากแล้ว จนคุณผู้ชายอาจจะน้อยอกน้อยใจกันบ้าง แต่คุณผู้ชายไม่ต้องน้อยอกน้อยอีกต่อไปนะคะ วันนี้โบว์เอาใจคุณผู้ชายบ้าง ด้วยวิธีการดูแลผิวสำหรับคุณผู้ชายค่ะ
              ส่วนมากคุณผู้ชายจะคิดว่า เราไม่จำเป็นต้องดูแลผิวอะไรมากเหมือนคุณผู้หญิงใช่มั้ยค่ะ? แต่ความจริงแล้ว การบำรุงผิวก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อผู้ชายไม่แพ้ผู้หญิงเลยนะจ๊ะ เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนก็ตาม ผิวก็ต้องการความดูแลกันทั้งนั้น เนื่องจากผิวของคนเรานั้นไม่สามารถผลิตสารบำรุงต่างๆได้เอง ดังนั้นหลังจากล้างหน้าจนสะอาดแล้ว ควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ชะลอความแก่และริ้วรอย ด้วยการทาครีมบำรุงผิวทุกครั้งนะค่ะ  โดยบำรุงหน้าวันละ 2 ครั้งต่อวัน ตอนเช้าก่อนออกจากบ้านและก่อนเข้านอนนะจ๊ะ
เรื่องของครีมบำรุงผิว ส่วนมากจะแบ่งได้อยู่ 2 ประเภท คือ Day Cream กับ Night Cream นะจ๊ะ
Day Cream ใช้สำหรับบำรุงผิวหน้าตอนเช้าตามปกติแล้ว ยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสียูวีด้วยนะจ๊ะ
Night Cream ใช้สำหรับบำรุงผิวตอนกลางคืน ครีมประเภทนี้จะเป็นครีมที่ผลิตออกมาใช้ในเวลากลางคืนโดยเฉพาะ เพราะช่วงกลางคืนจะเป็นช่วงที่ผิวจะบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
Tips:
-ผู้ชายผิวหน้ามัน ไม่เมาะกะครีมบำรุงผิว ประเภทที่เป็นเนื้อครีมจะบรรจุอยู่ในกระปุก มีเนื้อครีมเนียน จับตัวเป็นก้อน และมีน้ำมันบำรุงผิวค่อนข้างสูงนะจ๊ะ เพราะจะเป็นเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวมากเกินไป ซึ่งคนผิวมันมีความชุ่มชื้นในผิวมากอยู่แล้วนะคะ ครีมประเภทนี้จึงเหมาะกับคนผิวแห้งมากกว่าคะ
-ส่วนผู้ชายผิวหน้าแห้ง จะไม่เหมาะกับโลชั่นที่มีเนื้อเบาบางเหลวอ่อนตัว และมีส่วนผสมของน้ำเยอะกว่าน้ำมัน เพราะเมื่อใช้ผิวจะซึมซับได้เร็วและแห้งได้ง่าย  คนผิวแห้งจึงต้องการความชุ่มชื้นจากมากกว่าคนผิวมันนะคะ
-ไม่ควรใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารกันแดดในตอนกลางคืนนะจ๊ะ เพราะนอกจากจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังอาจทำให้ผิวของเราเกิดการดื้อต่อสารกันแดดได้จ๊ะ
-อย่าทาครีมวนเป็นวงกลมหรือทาสะเปะสะปะแบบไม่มีทิศทางจนเคยชินนะจ๊ะ เพราะการทาครีมในลักษณะนี้จะทำให้ใบหน้าเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้อย่างรวดเร็วคะ

การดูแลผิวด้วยเกลือ




                     เกลือ นอกจากมีประโยชน์ด้านคุณค่าทางโภชนาการแล้ว เกลือยังสามารถนำมาดูแลผิวให้มีสุขภาพดีได้อีกด้วย
ลดรอยช้ำรอบดวงตา มีวิธีง่าย ๆ โดยผสมเกลือ 1 ช้อนชาในน้ำร้อน 1/2 ถ้วย ใช้ผ้าหรือสำลีชุบน้ำเกลือ ปิดตาไว้สัก 5-10 นาที รอยช้ำรอบดวงตาจะค่อยๆ จางลง
ลดความมันบนใบหน้า โดยเริ่มจากใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนพอหมาดมาปิดหน้าไว้สัก 3-5 นาที เพื่อช่วยเปิดรูขุมขนก่อน แล้วจึงค่อยใช้เกลือ 1 ช้อนชา ผสมน้ำ ใส่ขวดสเปรย์ฉีดพ่นน้ำที่ผสมเกลือให้ทั่วใบหน้า จากนั้นก็ใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้าให้แห้ง
เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวพรรณ โดยใช้เกลือ 1/2 ถ้วย ผสมลงในอ่างอาบน้ำ แช่ตัวประมาณ 15-20 นาที จากนั้นเช็ดตัวให้แห้ง แล้วทาโลชั่นให้ทั่วร่างกาย เกลือจะช่วยให้ผิวชุ่มชื่นยิ่งขึ้น หรือขัดผิวให้สวยใสโดยใช้เกลือผงถูตัว แล้วใช้ฟองน้ำหรือผ้าขนหนูขัดให้ทั่วตัว โดยเกลือจะช่วยให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดออกมา ขณะเดียวกันก็กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกายอีกด้วย
ผ่อนคลายอาการเมื่อยล้าที่เท้า โดยผสมเกลือประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะลงในน้ำอุ่น แล้วแช่เท้าทั้งสองข้างไว้ จะช่วยให้รู้สึกคลายความเมื่อยล้าได้

ผิวขาวกระจ่างใส…ท้าแดด


     

              ผิวคุณ…ผิวขาวกระจ่างใสรึป่าวจ๊ะ? หลายๆคนมักไม่อยากที่จะออกแดดไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือกิจกรรมอื่นๆ เพราะกลัวผิวขาวกระจ่างใสของเรานั้นคล้ำเสีย นั่นอาจจะทำให้เราอาจพลาดโอกาสในการทำสิ่งใหม่ๆ หรือกิจกรรมที่สนุกสนานไปนะจ๊ะ จริงอยู่ค่ะที่ว่า แสงแดดจะทำให้ผิวขาวๆของเรานั้นเกิดการคล้ำเสีย เนื่องจากผิวของเรานั้นสัมผัสกับรังสียูวีโดยตรง ทำให้เกิดจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวแห้งและหยาบกร้าน ใครที่อยากมีผิวขาวกระจ่างใสอยู่เสมอ โดยอยากที่ไม่พลาดโอกาสที่จะทำกิจกรรมสนุกๆ อย่างการออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือ เดินเล่นชอปปิ้ง โบว์มีเคล็ดลับทำให้ผิวที่คล้ำเสียกลับมาเป็นผิวขาวสวยเปล่งปลั่งมาแนะนำคะ
-    อาหารช่วยผิวสวย อย่างที่รู้ๆกันนะคะว่าผิวสวยนั้นต้องมาจากอาหารที่มีคุณค่า อย่างเช่น นม เนย ผักและผลไม้สดต่างๆ ถั่วเหลือง เป็นต้น อาหารจำพวกนี้จะช่วยต้านความเสื่อมของผิว และซ่อมแซมผิวหนังที่เสียไปของเราให้กลับมาสดใสอีกครั้งคะ
-    การขัดผิ ขอแนะนำว่าควรขัดผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายหรือเสื่อมสภาพนะจ๊ะ เพราะเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวที่ถูกขัดออกไป แค่นี้เราก็จะมีผิวขาวกระจ่างใสมากกว่าเดิมแล้วนะ
-    ครีมบำรุงผิว เมื่อเราทำความสะอาดผิวทุกครั้ง ก็ควรจะบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวที่คล้ำเสียให้ดีขึ้น โดยการทาครีมให้เหมาะกับผิวแต่ละประเภทนะจ๊ะ อย่างเช่น ผิวแห้ง ก็ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ให้มากหน่อย เป็นต้น ที่สำคัญ อย่างลืมตามด้วยครีมกันแดดนะจ๊ะ วิธีนี้จะช่วยบำรุงและป้องกันผิวขาวๆของเราแล้ว ยังจะช่วยให้ผิวเราชุ่มชื้นอีกด้วยค่ะ
ผิวขาวกระจ่างใส มีได้กันทุกคน เพียงแค่ต้องรู้จักทานอาหารที่มีประโยชน์ ดูแลทำความสะอาด บำรุง และปกป้องผิวขาวๆของเราอย่างถูกวิธีนะคะ
Tips:
-    หลังจากทำความสะอาดผิวทุกครั้ง ควรทาครีมบำรุงผิวและตามด้วยครีมกันแดดนะจ๊ะ ถึงแม้เราจะไม่ได้ออกแดด แต่ผิวก็คล้ำได้ เพราะแสงจากหลอดไฟหรือแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวขาวของเราเกิดการคล้ำเสียจ๊ะ
-    การอยู่ในห้องแอร์นานๆจะทำให้ผิวของเราแห้ง ควรทาครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นนะ ผิวของเราจะได้เปล่งปลั่งสดใสตลอดเวลาจ๊ะ
-    สำหรับสาวๆที่อยากเพิ่มความกระจ่างใสด้วยระยะเวลาที่รวดเร็ว อาจจะต้องเสริมเติมแต่งสักเล็กน้อยนะจ๊ะ ด้วยการใช้ผงชิมเมอร์ เพื่อสร้างความเรืองรองกระจ่างใสให้ผิวได้

เคล็ดลับการถนอมดวงตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์


    

                จาก สถิติพบว่า.. ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมากกว่า 50% มีอาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้าและปวดศีรษะรวมทั้งมีอาการอื่นๆ เช่น ปวดเหมื่อยคอ และหลัง ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน และยังมีตัวแปรอีกหลายประการที่ทำร้ายสายตาของเรา เช่น ชนิดของจอคอมพิวเตอร์ แสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์ ความสว่างของห้อง ท่านั่ง ฯลฯ
เคล็ดลับเพื่อถนอมดวงตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์
1. กะพริบตาให้ถี่ขึ้น อาการ ตาแห้ง เกิด จากการที่เรากะพริบตาน้อยลง เนื่องจากมีสมาธิขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อัตราการกะพริบตาจะลดลงจาก 20 – 22 ครั้งต่อนาที เหลือเพียง 6 – 8 ครั้งต่อนาที ถ้าไม่อยากตาแห้ง ควรจะกะพริบตาให้ถี่ขึ้น หรืออาจใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
2. จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม ให้ บริเวณหน้าต่างอยู่ทางด้านข้างของจอคอมพิวเตอร์ เพื่อลดแสงตกสะท้อนบนหน้าจอ ควรจัดให้มีระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเราประมาณ 50 – 70 ซ.ม. จัดระดับจอภาพจากจุดศูนย์กลางของจอคอมพิวเตอร์ ให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4 – 9 นิ้ว ไม่ควรให้จอภาพอยู่สูงหรือต่ำเกินไป
3. ปรับความสว่างของห้อง ควร ปิดไฟบางดวงที่ทำการรบกวนการทำงาน เพราะปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความสว่างที่มากเกินไป ถ้ามีแสงจ้าจากหน้าต่าง ควรใช้มูลี่เพื่อปรับแสงให้ผ่านได้เพียงบางส่วน และไม่เข้าตาโดยตรง หลีกเลี่ยงการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีผิวสะท้อน เช่น โต๊ะสีขาว ควรใช้วัสดุที่มีผิวด้าน ที่สะท้อนแสงไม่มากจะดีกว่า
4. เลือกใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ เวลาพิมพ์งาน ควร เลือกใช้ขนาดของตัวอักษรที่ใหญ่พอ และปรับความเข้มของตัวอักษรให้มากขึ้น ซึ่งขนาดตัวอักษรและความเข้มที่เหมาะสมจะสังเกตได้จากการที่เราอ่านตัวอักษร ได้ในระยะห่างเป็น 3 เท่าของระยะที่นั่งทำงาน หรือเลือกใช้จอคอมพวิเตอร์ชนิด LCD (จอแบน) ซึ่งจะช่วยถนอนสายตาได้ดีกว่าจอแบบเก่า (CRT)
5. เลือกใช้แว่นที่เหมาะสมกับการใช้คอมพิวเตอร์ ควร เลือกใช้เลนส์สีเขียวอ่อน ที่ช่วยให้สบายตาภายใต้แสงจากหลอดไฟฟ้าฟลูออเรสเซนต์ และเพื่อลดแสงสะท้อนจากจอภาพ โดยเลือกแว่นตาที่มีกำลังขยายสำหรับระยะ 50 – 70 ซ.ม. (ระยะกลาง) ซึ่งค่ากำลังของเลนส์ดังกล่าวจะแตกต่างจากเลนส์อ่านหนังสือ หรือเลนส์มองใกล้ทั่วไป
6. พักสายตา ทุกๆ ชั่วโมง ควรเปลี่ยนอิริยาบถ หรือลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายบ้าง เพื่อพักสายตาและป้องกันอาการปวดเมื่อยจากการใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็น เวลานาน
รู้ถึงเคล็ดลับดีๆ อย่างงี้กันไปแล้วก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติตามกันนะคะ เพื่อ สุขภาพดวงตาที่ดีของเพื่อนๆ ผู้รักการเล่นคอมฯ เป็นชีวิตจิตใจ เพราะดวงตาของเราเป็นหน้าต่างของหัวใจ อย่าลืมถนอมมันให้ใช้ได้นานๆ นะจ๊ะ

ฝังเข็มปรับฮอร์โมนหน้าใส


รอเอามาฝากดู...เผื่อทุกคนสนใจ




ผิวสวยด้วยน้ำ


         

               น้ำเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถขาดได้ ในชีวิตประจำวันของคนเรา โดยปกติเราจะดื่มน้ำก็ต่อเมื่อคอแห้ง หรือดื่มน้ำระหว่างรับประทานอาหารเพื่อดับกระหายเท่านั้น ซึ่งนั่นอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่ถ้าเราลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำกันใหม่ เราก็สามารถผิวสวย สุขภาพดีได้แบบไม่ต้องลงทุนเหมือนกันนะจ๊ะ ด้วย 6 เคล็ดลับผิวสวยด้วยน้ำคะ
1. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการดื่มน้ำ ดื่มน้ำแร่ธรรมชาติให้ได้วันละ2ลิตร ติดต่อกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำบริสุทธิ์ในปริมาณที่เพียงพอ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เหมาะสม ช่วยย่อยและดูดซึมอาหาร และ ขับของเสียไปตามกระแสเลือด
2. วางน้ำดื่มไว้ข้างเตียงก่อนเข้านอน เมื่อตื่นมากลางดึก ถ้าร่างกายได้น้ำดื่มสักแก้วจะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย และสามารถนอนหลับต่อได้อย่างง่ายดายคะ
3. พกน้ำดื่มติดตัวไปทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน ระหว่างการเดินทาง หรือที่บ้าน เป็นต้น เพราะการดื่มน้ำให้ติดเป็นนิสัย จะทำให้สุขภาพดีนะจ๊ะ
4. ดื่มน้ำจากขวดให้ได้บ่อยที่สุด เพราะดื่มง่าย พกพาสะดวก และเพิ่มปริมาณการดื่มน้ำได้มากขึ้นด้วย
5. ดื่มน้ำให้สม่ำเสมอเมื่อเล่นกีฬา โดยดื่มน้ำทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกายในปริมาณที่มากพอ เพื่อชดเชยการเสียเหงื่อของร่างกาย
6. ไอเดทด้วยน้ำ ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนและหลังรับประทานอาหารกลางวัน จะช่วยลดอาการหิวควบคุมปริมาณการทานอาหาร และหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูงประเภทอื่นคะ
การดื่มน้ำให้ถูกวิธีก็เป็นอีกหนึ่งที่สามารถช่วยทำให้ผิวของเราดูเปล่งปลั่งสดใส และมีสุขภาพดีนะจ๊ะ

เคล็ดลับในการดูแลผิว ก่อนนอน


    
        อาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณคิดจะทำก่อนเข้านอน หากแต่การเช็ดขจัดคราบเครื่องสำอางออกจากใบหน้าเป็นสิ่งจำเป็นในการดูแลรักษาผิวพรรณให้คงความงามเนิ่นนาน
         การทำความสะอาดผิวและเช็ดคราบเครื่องสำอางให้หมดจดเป็นสิ่งสำคัญพื้นฐานของการมีผิวสวยใสสุขภาพดี อีกทั้งยังสำคัญต่อสุขภาพร่างกายแม้จะใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่ก็สามารถผนวกเข้ากับกิจวัตรประจำวันของคุณได้อย่างไม่ยากเย็น เพื่อผลลัพธ์มหาศาลในแง่สุขภาพและความงาม
         การเช็ดผิวด้วยผ้าหรือกระดาษชำระไม่เพียงแต่เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง ยังสามารถทำให้รูขุมขนอุดดัน อักเสบจนกลายเป็นสิว แต่ควรเช็ดคราบเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตา เพราะมิฉะนั้นอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้ และคุณจะได้นอนหลับฝันหวานไปพร้อมกับใบหน้าที่ใสสะอาด
เคล็ดลับในการดูแลผิวก่อนศีรษะถึงหมอนอย่างถูกวิธี

         - รวบผมไว้ด้านหลังอย่าให้รกปกคลุมตามใบหน้า
         - ผสมน้ำกับเคลนเซอร์ชนิดละลายน้ำให้เกิดฟองนุ่มนวล ลูบไล้ทั่วใบหน้าเพื่อชำระล้างคราบเมคอัพที่เกาะติดตามผิว หลีกเลี่ยงบริเวณบอบบาง เช่น รอบๆ ดวงตาที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
         - ถ้าใช้มาสคาร่าแบบกันน้ำ การใช้แผ่นสำลีอนามัยชุบโลชั่นเช็ดคราบเครื่องสำอางรอบดวงตาโดยเฉพาะ จะช่วยทำความสะอาดได้อย่างหมดจด
         - เลือกเคลนเซอร์ที่เหมาะกับประเภทของผิวตัวเอง มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าอยู่มากมายในท้องตลาดที่ผลิตขึ้นมาสำหรับผิวแห้ง ผิวธรรมดา ผิวมัน ฯลฯ
         - ถ้าในแต่ละวันลงเมคอัพค่อนข้างเยอะ เป็นต้นว่ารองพื้น อาจต้องการแผ่นสำลีหรือกระดาษเช็ดหน้าช่วยในการทำความสะอาด สำหรับผิวบอบบางระคายเคืองง่าย ควรหลีกเลี่ยงผ้าหรือกระดาษเช็ดหน้าเนื้อหยาบ อย่าลืมใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเคลนเซอร์ให้ซึมซาบทั่วใบหน้าเสียก่อน แล้วค่อยใช้แผ่นสำลีหรือกระดาษเช็ดทำความสะอาด
         - ล้างผิวด้วยน้ำอุ่นนิดๆ น้ำร้อนจัดหรือเย็นจัดจะทำให้ผิวอักเสบได้
         - ล้างเคลนเซอร์ด้วยน้ำสะอาดให้เกลี้ยงเกลาหมดจด คราบเคลนเซอร์ที่ตกค้างบนผิวอาจทำให้ผิวระคายเคืองลุกลามได้
         -ใช้ผ้าขนหนูเนื้อนุ่มซับน้ำที่ใบหน้าจนแห้ง ตามด้วยทามอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวยามค่ำคืน แล้วทาทับด้วยครีมลดเลือนริ้วรอย
         ปัญหาผิวต่างๆ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ยากเย็นเกินความพยายาม หากแต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่ามหาศาลผิวของคุณจะไม่ได้รับการกระทบกระเทือนจนมีริ้วรอยจากการทำความสะอาด ควรดูแลผิวอย่างระมัดระวังเพื่อคงความอ่อนเยาว์ของผิวไว้ตราบนานเท่านาน ระลึกไว้เสมอว่า อย่าขัดผิวหรือสักแต่ว่ารีบล้างหน้าให้เสร็จๆ ไป ก่อนนอนหากแต่ควรล้างอย่างทะนุถนอมเบามือและหมดจด เพื่อผิวที่เปล่งปลั่งไร้ริ้วรอยในทุกๆ เข้า