วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

ผมสวยด้วยธรรมชาติ

           
           สมุนไพรที่เรามีอยู่ใกล้ๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นพืช ผัก หรือผลไม้ ที่หาได้จากก้นครัวนั้น ช่วยทำให้ "ผมสวย" ได้ไม่แพ้ผลิตภัณฑ์ที่วางขายอยู่ตามท้องตลาด 

           เพียงแต่จะต้องมีขั้นตอนในการนำมาใช้ ใช่ว่าจะสะดวกเช่นการบีบออกจากขวด แต่ข้อดีคือสารสำคัญที่มีผลบำรุงผมนั้นยังคงมีอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนั้น "ผมสวยด้วยสมุนไพร" จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนรักผม สูตรต่อไปนี้เป็นวิธีนำสมุนไพรมาใช้เพื่อให้ผมสวยด้วยวิธีต่างๆ ได้ไม่ยาก เสน่ห์ผมหอมกรุ่น...ชวนหลงใหล
 
           ใช้ดอกไม้มีกลิ่นหอมตามชอบใจ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้สดอย่าง ดอกมะลิ (เลือกที่กำลังจะบาน) กุหลาบ (เลือกที่บานเต็มที่) ดอกแก้ว ดอกพุด เป็นต้น นำมาแช่ทิ้งไว้ในน้ำมันมะกอกนาน 3 - 6 ชั่วโมง ถ้าจะให้หอมมาก อาจแช่ทิ้งไว้นานถึง 1 คืนก็ได้ นอกจากนี้ อาจจะใช้ผิวมะกรูด หรือผิวมะนาวบีบลงไปผสมด้วยเล็กน้อย จากนั้น ให้นำส่วนผสมดังกล่าวมาหมักผมทิ้งไว้นานประมาณ 15 - 20 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด อาจใช้สูตรที่ทำจากดอกไม้แห้งก็ได้ โดยจะต้องนำดอกไม้แห้งไปเคี่ยวกับน้ำมันมะกอกจนได้ส่วนผสมเช่นเดียวกัน

          น้ำมันมะกอก ประกอบไปด้วยสารที่ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ให้ผมนุ่มลื่นเงางาม วิตามินเอและอีจะช่วยป้องกันการทำลายเส้นผมจากแสงแดดและอนุมูลอิสระ

          ผมนุ่มสลวยมีน้ำหนัก
          ใช้กล้วยหอมที่สุกค่อนข้างจะงอม นำเอามายีหรือปั่นผสมกับน้ำมันมะกอก นำมาใช้หมักผมที่แห้งหมาดๆ แล้วทิ้งไว้เป็นเวลานาน 15 - 20 นาที เมื่อล้างออกแล้วให้ใช้มะกรูดเผา คั้นเอาน้ำมาชโลมผม นอกจากจะช่วยให้ผมมีน้ำหนัก และสปริงตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ยังช่วยให้ผมมีกลิ่นหอมและไม่แห้งแตกปลายอีกด้วย

          กล้วยหอม มีองค์ประกอบของสารเพคตินที่จะช่วยเคลือบเส้นผม ให้ผมนุ่มมันเงา นุ่มลื่น โดยแร่ธาตุต่างๆ อาทิ ฟอสฟอรัส แคลเซียม ฯลฯ จะช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ป้องกันเส้นผมถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ

          บำรุงผมไม่ให้ร่วง
          ป้องการผมหลุดร่วง โดยบำรุงผมให้แข็งแรงถึงรากผมด้วยการใช้ขิงแก่นำมาบดแล้วห่อด้วยผ้าขาวบาง จากนั้นนำเอาไปอบไมโครเวฟก็ได้ นำห่อขิงที่อบร้อนนั้นมาคลึงที่หนังศีรษะให้ทั่วเป็นเวลานานประมาณ 15 - 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด การประคบดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นรากผมให้ผมที่งอกขึ้นมามีรากผมที่แข็งแรง และไม่หลุดร่วง

          ลดความมันของผม
          ด้วยการใช้มะนาวหรือมะกรูดผสมกับน้ำเปล่า นำส่วนผสมดังกล่าวมาชโลมผมแล้วไม่ต้องล้างออก อาจใช้สูตรน้ำส้มสายชูแทนได้แต่ต้องล้างออก

          มะกรูด  มีองค์ประกอบของสารไนอาซีน เหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และกรดอินทรีย์อื่นๆ ที่ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้เส้นผมนุ่ม มีน้ำหนัก เงางาม ดกดำ และไม่มีรังแค ช่วยปรับค่า pH ของเส้นผมที่มีค่าความเป็นด่างสูง ซึ่งเกิดขึ้นจากการใช้แชมพู อีกทั้งยังช่วยบำรุงผมไม่ให้หงอกก่อนวัย

          ปกป้องผมจากรังแค

          หากอยากมีเรือนผมสุขภาพดีที่ ปราศจากรังแค และอาการคันศีรษะ หลังจากสระผมปกติแล้ว ให้ใช้น้ำซาวข้าวเหนียวหรือข้าวกล้องปริมาณ 1 ถ้วย นำมะกรูดเผากับมะนาวประมาณ 3 - 4 ผล มาแช่ในน้ำซาวข้าวดังกล่าว แล้วบีบเอาน้ำออก นำมาหมักผมทิ้งไว้ประมาณ 15 - 20 นาทีแล้วไม่ต้องล้างออก
         
          ฟื้นฟูผมเสียสู่สภาพปกติ
          บำรุงผมเสียให้กลับคืน สู่ผมที่มีสุขภาพดีได้ด้วยการนำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก นำไปปั่นให้ละเอียด แล้วนำมาหมักผมไว้เป็นเวลานาน 15 - 20 นาที หรืออาจจะใช้ตะไคร้ ให้นำมาปั่นแล้วเอาน้ำมาหมักผมที่แตกปลายให้กลับสู่สภาพปกติได้ดี

          ทำสีผมสวย
          เช่นเดียวกับการเปลี่ยนสีผมด้วย ด้วยการใช้เฮนน่าผสมกับไข่แดง น้ำมันมะกอก กาแฟหรือชาโบราณก็ได้ แต่ไม่ควรใช้ชาจีน ผสมทั้งหมดให้เข้ากันแล้วทิ้งเอาไว้นาน 12 ชั่วโมง ส่วนผสมจะมีลักษณะคล้ายโคลน ให้นำส่วนผสมดังกล่าวมาหมักผมไว้นานประมาณ 1 ชั่วโมง จะช่วยปรับสีผมให้ได้ออกมาเป็นสีโค้ก โดยถ้ายิ่งหมักทิ้งไว้นานกว่านั้นหรือหมักบ่อยเข้า ผมก็จะมีสีออกแดงยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ถ้าบีบมะนาวลงไปในส่วนผสมดังกล่าวด้วย ก็จะทำให้สีที่ทำเกาะติดผมดียิ่งขึ้น แต่คนผมแห้งไม่ควรใช้มะนาวเนื่องจากกรดจะไปกัดผม

          ไข่ มีองค์ประกอบของเลซิติน โปรตีน ธาตุเหล็ก วิตามินเอ ดี และอี คอเลสเตอรอล และแอนติออกซิแดนต์ ที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้หนังศีรษะและเส้นผมแข็งแรงมีสุขภาพดี

เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนซัมเมอร์จะมา

เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนซัมเมอร์จะมา (Health plus)


          พูดถึงซัมเมอร์ทีไร สาว ๆ หลายคนต้องรีบเดินหนีหาที่บังแดดเป็นการด่วน แต่ดูจะเป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเกินไปหรือเปล่า แน่นอนซีซั่นใหม่ใกล้มาถึงเต็มที เผลอ ๆ เดือนนี้บ้านเราเข้าหน้าร้อนแล้วด้วยซ้ำ ยังพอมีเวลาอยู่ค่ะ เตรียมรับมือกับสิ่งละอันพันละน้อย ก็น่าจะทำให้เราชิลกับซัมเมอร์ได้ตลอดฤดู

          ผิวคุณพร้อมหรือเปล่า...ช่วงย่างเข้าหน้าร้อน อาจมีฝนตกได้บ้าง อากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนนี้แหละ อันตรายนักแล สำหรับสาว ๆ ที่ไม่ค่อยเตรียมพร้อมรับมือ

Do


  •         ติดตามพยากรณ์อากาศ ก่อนออกจากบ้าน เพราะช่วงนี้อากาศบ้านเราเอาแน่เอานอนไม่ได้ การอัพเดตข่าวสารสำคัญมากสำหรับการเตรียมรับมือ
  •        ดื่มน้ำอย่างน้อย 6 - 8 แก้ว หรือ 1.5  ลิตรต่อวัน น้ำจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ
  •        หมั่นทาครีมกันแดด ควร เลือกใช้ที่มี SPF15 ขึ้นไปและมี PA+++ ยิ่งบวกมากยิ่งดี ครีมกันแดดก็เป็นสิ่งสำคัญในหน้าร้อน ผิวที่เผชิญแสงแดดแรง ๆ บ่อย ๆ ไม่เพียงแต่เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนัง เท่านั้น แต่ยังทำให้ผิวหยาบกร้าน หมองคล้ำ เหี่ยวย่น ทำให้เกิดฝ้า กระและจุดด่างดำได้
  •        เช้าแดดจ้า บ่ายฝนตก สาว เมืองใหญ่หากเปียกฝน ควรอาบน้ำทันที เพราะในน้ำฝนอาจมีฝุ่นละออง เชื้อแบคทีเรียปะปนอยู่ โดยใช้สบู่อ่อน ๆ เพื่อชำระล้างเชื้อโรคและคราบสกปรก ต่อด้วยทาครีมบำรุงผิว หลังอาบน้ำหรือล้างหน้าขณะผิวยังหมาด ๆ เพราะรูขุมขนยังเปิดให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้มากกว่า
  •        ควรมีโลชั่นบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ติดบ้านไว้บ้าง หรือว่านหางจระเข้สด ๆ ก็ดี เพราะในวันที่ผิวแสบร้อนจากการตากแดดในวันถัดมา


       Don’t


       การล้างหน้าบ่อย ๆ ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น ยิ่งกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากจนอาจเกิดสิวและอักเสบได้

       ไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะยิ่งทำให้หน้ามันมากขึ้นและอุดตันทำให้เกิดสิวได้ หมั่นดูแลความสะอาดของอุปกรณ์แต่งหน้า รวมทั้งก่อนนอนควรเช็ดล้างเครื่องสำอางออกให้หมด เพื่อเป็นการพักหน้า

          สำหรับสาวสปอร์ต...สาวสปอร์ตผู้รักการออกกำลังกาย เป็นสาวมั่นที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง พึงรู้ไว้เพื่อรับมือก่อนผิวคุณจะเสีย โดยมีคำแนะนำจาก นพ.อิทธิชัย วัชรีคุปต์ จาก โรงพยาบาล กล้วยน้ำไท "สาว ๆ ทุกวันนี้มักคิดกันว่า ไม่ควรออกกำลังกายกลางแจ้ง แต่การออกกำลังกายกลางแจ้งไม่ว่าจะเล่นกีฬาชนิดใด เป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจากผิวต้องการวิตามินดีจากแสงแดด เพื่อใช้ในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ถ้าเป็นการออกกำลังกายช่วงที่อากาศเย็นสบาย ไม่มีแสงแดดแรง ก็ไม่ส่งผลร้ายต่อผิวสวยของคุณ ถึงแม้จะเป็นการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานก็ตาม แต่ช่วงเวลาที่คนอื่นเขาเลี่ยงแดดกัน สาวมั่นอย่างคุณ ก็ควรตามกระแสหลบแดดหลบฝนบ้าง ช่วงเวลาที่ควรเลี่ยงไม่ควรออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งคือ ตั้งแต่ 10.00-16.00 น."

             1.  โยเกิร์ต ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และลดความอ่อนล้าให้สดชื่นขึ้น กระตุ้นต่อมน้ำลายไม่ให้รู้สึกกระหายน้ำ ช่วยดูดซับของเสียและแบคทีเรีย รวมถึงปรับสมดุลของกรดในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย

             2.  สลัดผัก 1 จาน ประกอบด้วยผักและผลไม้หลากชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีน้ำและเกลือแร่ ช่วยทดแทนน้ำที่เสียไปได้ ถ้าเป็นสลัดที่มีแตงกวา มะเขือเทศและองุ่นเม็ดโตด้วยก็จะดีไม่น้อย เท่ากับเราเติมน้ำเข้าไปปรับสมดุลภายใน

             3.  แต่งหน้าใส ๆ เผยผิว เน้นการแต่งหน้าแบบเผยผิวจริง เหมือนไม่ได้แต่งอะไรมาเลย ที่ควรติดกระเป๋าไว้ คือ แป้งฝุ่น และลิปกลอส มีของ 2 อย่างนี้ ซัมเมอร์นี้รอดแน่

             4.  เสื้อผ้าโทนสีขาว เท รนด์ซัมเมอร์ปีนี้ว่ากันว่า โทนสีขาวดั่งสาวบริสุทธิ์กำลังมาแรง แฟชั่นนิสต้าบางคนเลือกเป็นสีพื้น ๆ แล้วแมตช์กับแอคเซสซอรี่หลากสี อ้อ...เสื้อผ้าลายทาง เอาท์ไปแล้วนะจ๊ะบอกไว้ก่อน

             5.  รองเท้าแตะริมหาด ถ้าเป็นปีที่แล้วส้นตึกอาจจะอินนะคะ แต่ปีนี้สาวฮอลลีวู้ดหลายนางต่างก็ชิล ๆ กัน ในชุดสบาย ๆ สไตล์แตะ ๆ กันทั้งนั้น

             6.  แอคเซสซอรี่ขนนก งานนี้สาวเอเชียเป็น ผู้นำเทรนด์เลยนะคะ ต่างหูขนนกโดดเด่นพลิ้วไหว เล่นลมราวกับโมบายริมหาดหลายสี ไม่ว่าจะถูกหรือแพง คอนเฟิร์มได้ ซัมเมอร์นี้อินนานแน่


ที่มา :: http://women.kapook.com/view39551.html

อบไอน้ำให้ผิวสวย..

การอบไอน้ำจริงแล้วไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะเส้นผมเท่านั้น สำหรับใบหน้า แต่ผิวก็จะได้รับด้วยเช่นกัน
ซึ่ง วิธีการอบไอน้ำใบหน้าง่ายมาก

•1. เตรียมน้ำเดือดจัดใส่ชาม ทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที เพื่อให้อุณหภูมิลดลงเหลือประมาณ 80 องศาเซลเซียส ใส่น้ำมะนาวครึ่งผลหรือชาคาโมมายล์ครึ่งถ้วย อาจใส่เอสเซนเชียลออยล์กลิ่นที่ชอบประมาณ 2 หยด เพื่อความผ่อนคลาย
•2. อังหน้าเหนือชามประมาณ 20 เซนติเมตร นาน 10 นาที สำหรับคนที่มีปัญหาเส้นเลือดฝอยที่ผิวหน้าให้ลดเวลาลงเหลือ 5 นาที
•3. นั่งพักหน้าประมาณ 1 นาที แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเย็นซับหน้าเพื่อกระชับรูขุมขน
สาว ๆ สามารถทำได้ไม่ยากเลยค่ะ วันหยุดนี้อย่าลืมนำวิธีอบไอน้ำนี้ไปใช้กันดูนะคะ..

ผิวหน้าสวยด้วยฟักทอง


หากพูดถึงผลไม้สีเหลืองผลหนักอย่างฟักทอง เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงจะนึกถึงสรรพคุณในเรื่องการช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผล นั่นเพราะฟักทองช่วยทำให้อิ่มท้องได้นานนั่นเอง แต่สาว ๆ เชื่อมั้ยคะว่า จริง ๆ แล้วฟักทองมีประโยชน์ด้านความสวยความงามมากกว่านั้น เพราะมันสามารถนำมาพอกหน้าเพื่อผิวหน้าสวยใสได้ด้วยแน่ะ และแน่นอนค่ะว่าเรื่องดี ๆ แบบนี้ กระปุกดอทคอมไม่มีพลาดแน่ ๆ ว่าแล้วก็ตามไปดูกันเลยค่ะว่าฟักทอง ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินอีและทีนี้ จะนำมาใช้พอกหน้าได้ยังไงกันบ้าง

สูตรมาสก์หน้าฟักทองสำหรับสาวผิวแห้ง ใช้ฟักทองต้มแล้วกวนโดยผสมน้ำเล็กน้อย เสร็จแล้วผสมเข้ากับน้ำมันมะกอก นำมาพอกหน้าแล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้ผิวนุ่มนวลค่ะ

สูตรมาสก์หน้าฟักทองสำหรับสาวผิวมัน ใช้ฟักทองต้มแล้วกวนโดยผสมน้ำเล็กน้อย แล้วผสมเข้ากับน้ำมันมะกอก นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น หรือจะใช้ฟักทองบดเข้ากับไข่ขาว กวนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น พร้อมกับใช้ฟักทองสดฝานแล้ววางบนใบหน้าทุกวัน จะช่วยในเรื่องของสิวได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

สูตรมาสก์หน้าฟักทองสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ให้กวนฟักทองกับไข่แดง ผสมเข้ากับน้ำผึ้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วรอให้เนื้อฟักทองอุ่น ๆ นำไปพอกหน้า 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

นอก จากจะนำมาพอกหน้าแล้ว ฟักทองยังสามารถนำไปทำเป็นครีมเพื่อทาใบหน้าในแต่ละวันได้ด้วย โดยใช้ฟักทองนึ่งบด ผสมให้เข้ากับนมแล้วต้มโดยผสมน้ำเล็กน้อย จากนั้นใส่น้ำมันมะพร้าวลงไปแล้วคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนตักใส่กระปุกแล้วแช่เย็นไว้ นำมาทาผิวหน้าทุกเช้าก่อนอาบน้ำ 15 นาที เพื่อผิวหน้าสวยใสได้อีกด้วย

http://women.kapook.com/view16676.html

เคล็ดลับดูแลผิวพรรณสำหรับคุณผู้ชาย



 ความสวยความงามใช่ว่าจะมีแต่ในสุภาพสตรีเท่านั้น และก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าเหล่าสุภาพบุรษจะหันมาดูแลใส่ใจในเรื่องความสวยความงามของผิวพรรณจะต้องเป็นเกย์หรือแอบจิต เพราะปัจจุบันสังคมเปลี่ยนไปสิ่งแวดล้อมเป็นพิษมากขึ้น ถ้าเราปล่อยปละละเลยในการดูแลสุขภาพและผิวพรรณไปแล้วเนี่ย เชื่อได้เลยว่าริ้วรอยแห่งวัยจะมาเยี่ยมเยียนใบหน้าคุณได้ง่ายและเร็วมากๆ ด้วยเหตุนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ลักษณะผิวพรรณของผู้หญิงกับผู้ชายแตกต่างกัน ผู้หญิงจะเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าผู้ชายที่เห็นได้ชัดก็อย่างเช่น ความนุ่มนวลของผิว หรือจะเป็นเรื่องขน หนวดเครา หรือเรื่องของรูขุมขนก็ตาม  ล้วนเป็นเหตุให้การดูแลผิวพรรณของคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงอาจจะแตกต่างกันบ้าง  โดยเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆที่จะขอแนะนำสำหรับการดูแลผิวสำหรับผู้ชายคือ 


1. การล้างหน้าอย่างถูกวิธี      

          การทำความสะอาดผิวหน้าขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับลักษณะผิวของตัวเองคือโดยที่สามารถตรวจสอบลักษณะผิวพรรณของคุณได้ตามศูนย์ความงามทั่วไป


1.1 ผิวมัน เป็นผิวที่มักมีน้ำมันเคลือบผิวมากทั่วหน้า เกิดสิวง่าย รูขุมขนใหญ่ชัดเจนควรใช้ผลิตภัณท์ทำความสะอาดผิวที่ทำให้ผิวแห้งลง อย่างที่เป็นสบู่ก้อนหรือโฟม ก็จะดีกว่าเจลใสหรือน้ำเปล่า หลังล้างหน้าแล้ว การเช็ดทำความสะอาดด้วยOil control หรือ Toner ก็จะช่วยให้การทำความสะอาดผิวหมดจดดียิ่งขึ้น


1.2 ผิวผสม  เป็นผิวที่มักมีน้ำมันเคลือบเยอะบริเวณทีโซน (หน้าผาก จมูก หรือคาง) แต่บริเวณแก้มกลับแห้งตึง รูขุมขนกว้างแต่ไม่เห็นชัดมาก  ควรเลือกผลิตภัณท์ทำความสะอาดผิวแบบที่ไม่ลดความมันมากเกินไป เช่นแบบเจลใส  โดยหลังล้างหน้าเลือกOil controlหรือ Tonerเช็ดทำความสะอาดบริเวณทีโซน


1.3 ผิวธรรมดา  เป็นผิวที่มักมีน้ำมันเคลือบในปริมาณที่พอเหมาะ  รูขุมขนเห็นไม่ชัด  ควรเลือกผลิตภัณท์ทำความสะอาดผิวแบบอ่อนๆเช่นเจลใส  หลังล้างหน้าใช้Lotion เช็ดผิวเป็นครั้งคราว


1.4  ผิวแห้ง   เป็นผิวที่ขาดน้ำมันเคลือบผิว บางรายอาจลอกเป็นขุยๆ รูขุมขนเล็ก มักจะเป็นผิวที่แพ้ง่าย คนผิวแห้งจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณท์ทำความสะอาดผิว หรือLotionโดยไม่จำเป็น  ใช้แค่น้ำเปล่าล้างหน้าก็พอค่ะ      

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

มาร์คหน้าสำหรับสาวผิวมัน




เอามาฝากสำหรับสาวๆที่มีผิวมันหน้ามันนะค่ะ....หน้าจะมีประโยชน์สำหรับใครหลายๆคน

ผิวขาวใส ไม่ยากอย่างที่คิด

          การดูแลผิวขาวใสนั้น ต้องดูแลตั้งแต่วัยรุ่นนะจ๊ะ ว่าคือยิ่งเราดูแลผิวตัวเองเร็วแค่ไหน ยิ่งทำให้ผิวเราดูเด็กมากขึ้นนั้น ไร้ปัญหาริ้วรอยกว่าวันอันควร และยืดความเสื่อมของเซลล์ผิวได้มากขึ้นค่ะ โบว์มี 5 สิ่งที่ควรปฏิบัติ เพื่อช่วยให้ผิวขาวใส และผิวสวยดูสดใสไปนานๆค่ะ



          การดูแลผิวขาวใสนั้น ต้องดูแลตั้งแต่วัยรุ่นนะจ๊ะ ว่าคือยิ่งเราดูแลผิวตัวเองเร็วแค่ไหน ยิ่งทำให้ผิวเราดูเด็กมากขึ้นนั้น ไร้ปัญหาริ้วรอยกว่าวันอันควร และยืดความเสื่อมของเซลล์ผิวได้มากขึ้นค่ะ โบว์มี 5 สิ่งที่ควรปฏิบัติ เพื่อช่วยให้ผิวขาวใส และผิวสวยดูสดใสไปนานๆค่ะ

1.ครีมกันแดด ควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านให้ติดเป็นนิสัยนะจ๊ะ เพราะแสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต ทำให้ผิวเราเสื่อมได้มากถึง 80%เชียวนะ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวขาวใสของเราเกิดริ้วรอย และเหยี่ยวย่นค่ะ
2.ท่านอน การนอนของคนเราอย่างน้อยต้องใช้เวลาถึง 6-8 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับคนที่ชอบนอนซุกหน้ากับหมอนจะทำให้ด้านที่ตะแคงเข้าหาหมอนเกิดริ้วรอยมากกว่าอีกด้านนึงค่ะ เพราะฉะนั้นเราควรเปลี่ยนท่านอนมาเป็น ท่านอนหงายหรือเลือกใช้หมอนที่อ่อนนุ่ม และเลือกปลอกหมอนที่มีเนื้อผ้าลื่นๆ เช่น ผ้าซาติน เพื่อแก้ปัญหาตรงจุดนี้ และหน้าขาวใสของเราก็จะปราศจากริ้วรอยค่ะ
3. อาหาร ผิวขาวใสมาจากอาหารที่ดี มีประโยชน์ ครบหมดหมู่นะจ๊ะ โดยเฉพาะวิตามินที่ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว ได้แก่ วิตามินเอ ซี และอีค่ะ อย่างเช่น ผักสดและผลไม้สดค่ะ และเมื่อทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว อย่าลืมดื่นน้ำให้มากๆประมาณ 6-8แก้วต่อวันนะค่ะ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น สดใสให้แก่ผิวค่ะ
4. พักผ่อน ต้องรู้จักการพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ เพราะผิวขาวใสของเรานั้นจะมีได้ ต้องเริ่มมาจากสุขภาพที่ดีนะจ๊ะ ถ้าเราสุขภาพดี แข็งแรง ผิวพรรณของเราก็จะสวย สดใสตามไปด้วยค่ะ
5. ผ่อนคลาย ความเครียดเป็นบ่อเกิดของใบหน้าหมองคล้ำ ริ้วรอย สิว และอื่นๆนะจ๊ะ เพราะฉะนั้น เราควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียดบาง อย่างเช่น การนั่งสมาธิ การฟังเพลง เดินเล่น เป็นต้น ก็ช่วยลดความเครียดได้ค่ะ
นี่คือ 5 วิธีง่ายๆเพื่อผิวขาวใสที่คุณก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนนะจ๊ะ
Tips:
  • การทาครีมกันแดด ควรเลือก SPF ให้เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพผิวนะจ๊ะ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุดค่ะ
  • เมื่อต้องออกแดด หรืออยู่กลางแจ้ง ควรสวมหมวก สวมเสื้อผ้า หรือหาเครื่องปกป้องผิวขาวใสบ้างนะจ๊ะ เพื่อไม่ให้ผิวขาวใสกระทบกับแสงแดดโดยตรง
  • ขณะขับรถ หรือเดินทางในที่แดดจ้า ควรสวมแว่นตากันแดดนะค่ะ เพราะถ้าคุณไม่สวมแว่นตากันแดด จะทำให้เราหยีตาโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยค่ะ
  • สดใสตลอดเวลา ถ้าเราสดใส สดชื่นตลอดเวลา จะทำให้เราเลิกทำหน้านิ่วคิ้วยุ่งๆตลอดเวลา และทำให้ผิวขาวใสของเราดูน่ามองมากขึ้นค่ะ
  • งดการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยนะจ๊ะ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญในการทำลายผิวหนังให้เสื่อมก่อนวัยอันควรค่ะ
  • การอดนอนบ่อยๆ จะทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำ อิดโรย ไม่สดใส และเกิดริ้วรอยก่อนวันอันควรค่ะ